พนักงานสาวที่ทำงานที่ร้านเซเว่นสาขาหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี ถูกลูกค้าหนุ่มทำร้ายดวยการใช้หมวกกันน็อกตีที่ใบหน้า เพียงเพราะพนักงานบอกให้ลูกค้าลงชื่อก่อนเข้าร้าน นอกจากทำร้ายแล้วลูกค้าหนุ่มยังพูดจาข่มขู่ จนพนักงานต้องไปแจ้งความดำเนินคดี
เหตุการณ์ ลูกค้าทำร้ายพนักงานเซเว่น นี้มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 13 เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564 โดยมีการแสดงภาพเป็นกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าร้านเซเว่น ซึ่งร้านนี้อยู่บริเวณตลาดกอบกาญจน์นฤมิต ซี่งตลาดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า ตลาดแม่ครู
สำหรับภาพในกล้องวงจรปิดที่มีแชร์กันอยู่นั้นจะเห็นได้ว่าในช่วงเวลามาประมาณเช้าตรู่ ซึ่งตามเวลาในกล้องระบุเป็น 06.00 น. ระหว่างนั้นก็มีลูกค้าเดินเข้ามาภายในร้านเซเว่นตามปกติ แต่มีลูกค้าชายคนหนึ่งใส่เสื้อยือดสีแดง กางเกงขาสั้น เขากำลังเดินเข้ามาภายในร้านเซเว่นและในตอนนั้นเอง พนักงานของร้านก็บอกให้เขาทำการลงชื่อก่อนเข้าร้าน ซึ่งการลงชื่อนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ลูกค้าลงชื่อทุกครั้งก่อนเข้าไปใช้บริการที่ไหนก็ตามเพื่อที่จะได้ตรวจสอบไทม์ไลน์ได้หากมีการติดเชื้อไวรัสโควิด
แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมลงชื่อและแสดงอาการไม่พอใจ จึงได้ชี้หน้าและโวยวายด่าทอพนักงานหญิงคนดังกล่าวและที่สำคัญเขาได้เอาหมวกกันน็อกที่ถืออยู่ในมือฟาดไปที่ใบหน้าของพนักงานเซเว่นหญิงคนนั้นด้วย ทำให้พนักงานได้รับบาดเจ็บ แต่ลุกค้าคนดังกล่าวยังไม่พอใจ กลับชี้หน้าและยัง พูดจาข่มขู่ว่าจะกลับมาทำร้ายพนักงานหญิงคนดังกล่าวภายหลังอีกต่างหาก ทำให้พนักงานเกิดความหวาดกลัว ภายหลังลูกค้าออกนอกร้านเซเว่นไปแล้ว พนักงานหญิงที่ถูกทำร้ายจึงได้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดไปทำการแจ้งความ
จากเหตุการณ์ที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์นี้ทำให้หลายคนที่ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดมองว่า การกระทำของชายคนดังกล่าวนั้น ทำเกินกว่าเหตุ เพราะอันที่จริงการลงชื่อก่อนเข้าไปใช้บริการร้านนั้น มีให้ทำทุกที และในขณะนี้เราทุกคนควรจะต้องร่วมมือกันในการลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการติดเชื้อและการแพร่เชื้อโควิด-19 เพราะในตอนนี้คนไทยหลายพันคนมีการติดเชื้อไวรัสแล้ว ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรู้ว่าคนที่ติดเชื้อนั้น เขาเดินทางไปที่ไหนบ้างเพื่อเช็คสถานที่ที่เป็นสถานที่เสี่ยงนั่นเอง ดังนั้นเราคนไทยทุกคนควรจะให้ความร่วมมือในการลงชื่อทุกครั้งก่อนเข้าไปใช้บริการที่ไหนก็ตาม
สนับสนุนโดย วิธีสมัครหวยออนไลน์