เด็กอนุบาลที่ถูกครูจุ๋มโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ทำร้ายร่างกายควรต้องเจอนักจิตวิทยา
เกี่ยวข้องกับข่าวที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้นั่นก็คือเรื่องที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ปล่อยให้คุณครูพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลจนผู้ปกครองของเด็กนั้นจับได้และอยู่ระหว่างการดำเนินการฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้นั้น ในเรื่องของการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จะจัดการกันเองแต่ในส่วนในเรื่องของเด็กนักเรียน
ซึ่งเป็นเด็กวัยเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้นที่ถูกทำร้ายร่างกายพวกเขาย่อมมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของผลกระทบทางด้านจิตใจของเด็กอย่างที่เราได้มีการติดตามข่าวสารจะเห็นได้ว่าผู้ปกครองหลายคนของเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายมีการออกมาพูดถึงเหตุผลที่พวกเขานั้นสามารถรู้ได้ว่าลูกของตนเองนั้น
อาจจะถูกคุณครูทำร้ายนั่นก็เพราะว่าในช่วงเวลายามค่ำคืนเด็กๆมักจะมีอาการหวาดผวาและร้องไห้เสียงดังโวยวายที่สำคัญตื่นเช้ามาเด็กๆมักจะปฏิเสธการไปโรงเรียนนั่นแสดงให้เห็นว่าจิตใจของเด็กๆที่ถูกทำร้ายนั้นกำลังมีบาดแผลและเด็กบางคนยังมีผลต่อการกระทำที่เลียนแบบคุณครูที่ทำร้ายตนเอง
ด้วยการมีอารมณ์ฉุนเฉียวรวมถึงมีการทำร้ายผู้ปกครองของตนเองซึ่งหลังจากทำร้ายแล้วกลับบอกว่าสาเหตุที่ทำร้ายนั้นคือการแสดงความรักของเด็กงั้นก็แสดงว่าสิ่งที่เด็กๆที่ถูกทำร้ายได้เจอมานั้นไปกระทบกระเทือนจิตใจของเด็กและจะส่งผลต่อเด็กในระยะยาวอีกด้วยดังนั้นทางที่ดีที่สุดในขณะนี้ในการช่วยเหลือเยียวยาเด็กนั้นก็คือการที่จะต้องหานักจิตวิทยาลงไปพูดคุยกับเด็กเพื่อมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็กช่วยเหลือให้เด็กนั้นคลานหวาดกลัวและกลับมาเป็นเด็กที่น่ารักสดใสเหมือนเดิม
สำหรับเด็กเหล่านี้อาจจะต้องมีการพูดคุยกับนักจิตวิทยาซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาสภาพจิตใจของเด็กกว่าจะกลับมาดีดังเดิมได้ แน่นอนว่าสิ่งที่เด็กได้เจอมานั้น มันค่อนข้างหนักหนาสาหัสสำหรับพวกเขามากจนเด็กมีความฝังใจถึงขนาดที่ไม่อยากที่จะมาโรงเรียนรวมถึงกับไปนอนละเมอ
ดังนั้นสำหรับปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของครูที่ทำร้ายเด็กนักเรียนในครั้งนี้นั้น นอกจากทางโรงเรียนจะต้องมีการแก้ไขปัญหาระบบการปกครองภายในโรงเรียนการตรวจสอบการศึกษาของคุณครูก่อนที่จะรับเข้ามาทำงานทางโรงเรียนอาจจะต้องมีการชดเชยความรู้สึกของผู้ปกครอง
และเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายด้วยการหานักจิตวิทยามาคุยกับเด็กเพื่อรักษาอาการของเด็กให้หายดีให้พวกเขาหายหวาดกลัวการมาโรงเรียนนั่นถึงจะถือว่าเป็นการชดเชยให้กับผู้ปกครองและตัวเด็กได้ดีมากกว่าการลดเงินค่าเทอมให้กับผู้ปกครองนั่นเอง
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์