รากฟันเทียมตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพฟันใครบ้าง

รากฟันเทียมตอบโจทย์ ผู้ที่เหมาะสมกับการดูแลและรักษาแบบสวมใส่รากฟันเทียมเป็นผู้ที่อยากที่จะให้ฟันแลดูอย่างเป็นปกติเยอะที่สุด รวมทั้งปรารถนาที่จะยิ้มรวมทั้งสร้างเสริมกำลังใจให้ตัวเอง

ปรารถนาทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับในการบดอาหารให้ดียิ่งขึ้น หรือมาชดเชยฟันธรรมาชาติที่เหลือแต่สุขภาพไม่ดีและไม่สามารถปฏิบัติภารกิจเป็นฟันเครื่องยึดเหนี่ยวให้กับฟันเทียมประเภทอื่น ๆ รวมทั้งคนป่วยซึ่งสามารถทำฟันปลอมที่ถอดได้ แม้กระนั้นไม่ประสบความสำเร็จสำหรับ ในด้านการใช้งาน

ด้วยเหตุนี้การดูแลและรักษาโดยการทำ dental implant ก็เลยสามารถช่วยจัดการกับปัญหากลุ่มนี้ได้ อย่างการทำdental implant เพื่อตอบแทนฟันที่หายไป 1-2 ซี่ วิธีการทำฟันแบบนี้ถือได้ว่าแนวทางที่เยี่ยมมากในขณะนี้ ยิ่งไปกว่านี้การทำวิธีดังกล่าวยังช่วยทำให้มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้นแก่ dental implant จำพวกถอดได้อีกด้วย

 

คนไหนกันบ้างที่ไม่ควรทำกับกระบวนการทำฟันแบบรากเทียม

โดยปกติคนที่สูญเสียฟันธรรมชาติไปแล้ว สามารถรักษาด้วยการใช้วิธีนี้ได้ทุกคนและก็ทุกช่วงอายุ แม้กระนั้นไม่ชี้แนะให้ทำในเด็กที่อายุต่ำกว่าสิบแปดปี เนื่องจากว่ากระดูกขากรรไกรยังเติบโตได้ไม่เต็มกำลัง ในเรื่องที่คนเจ็บมีครรภ์ ควรจะคลอดลูกก่อนทำ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ยกตัวอย่างเช่น ผู้เจ็บป่วยเบาหวานจำพวกที่ไม่อาจควบคุมได้ ผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งที่รับการดูแลรักษาด้วย

การฉายรังสีใบหน้ารวมทั้งขากรรไกร คนป่วยโรคปริทันต์อักเสบร้ายแรง ผู้ที่เป็นป่วยด้วยโรคลูคีเมีย หรือมีอาการป่วยเป็นโรคไฮเปอร์ต่อมไทรอยด์จำต้องได้รับการดูแลและรักษาเพิ่มก่อนกระทำการตั้งหลักปักฐานเทียม

นอกนั้นผู้เจ็บป่วยที่รับการดูแลและรักษาด้วยยากดภูมิต้านทาน หรือป่วยเป็นโรคทางจิตเภท หรือมีลักษณะไขข้ออักเสบร้ายแรง รวมทั้งผู้มีปัญหาประเด็นการควบคุมแนวทางกล้ามเนื้อ ทำให้เจอปัญหาการดูแลสุขภาพโพรงปากเองได้ ผู้เจ็บป่วยที่ทานยาบางจำพวก ได้แก่ ยารักษากระดูกบางตัว หรือคนที่ดูดบุหรี่จัด ไม่สมควรเข้ารับแนวทางการทำรากเทียม  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน  เพราะว่าจะส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายสำหรับการรักษาไม่สามารถทำให้สำเร็จได้

 

การตระเตรียมตัวก่อนทำ

คนเจ็บที่จะทำเข้ารับการดูแลรักษาด้วยแนวทางการทำดูแลฟันด้วยวิธีนี้ ต้องเข้ารับการตรวจและก็ประเมินจากหมอฟันเฉพาะทางให้ละเอียด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กำเนิดปัญหา หมอฟันผู้ชำนาญที่มีความเข้าใจประเด็นการบดอาหารรวมทั้งกระบวนการทำทันตกรรมประดิษฐ์ จะกระทำเลือก dental implant ที่เหมาะสมกับผู้ป่วย ถ้าหากผู้เจ็บป่วยมีโรคประจำตัว หรือกินยาอยู่ควรจะแจ้งให้หมอฟันรู้ นอกเหนือจากนั้นการดูแลสุขลักษณะโพรงปากให้ดีเป็นเรื่องจำเป็นที่คนป่วยควรปฏิบัติก่อนกระทำการเข้ารับการดูแลและรักษา

เรียนรู้และรับประทานในสิ่งที่จำเป็น

เรียนรู้และรับประทาน สับสนกับคำแนะนำด้านโภชนาการที่ขัดแย้งกันทั้งหมดหรือไม่เคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้จะแสดงให้คุณเห็นถึงวิธีการวางแผน เพลิดเพลิน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

อาหารเพื่อสุขภาพคืออะไร การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพไม่ได้เกี่ยวกับข้อจำกัดที่เข้มงวด การผอมเกินจริงหรือการกีดกันอาหารที่คุณรัก แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกที่ดี มีพลังงานมากขึ้น ปรับปรุงสุขภาพของคุณ และกระตุ้นอารมณ์ของคุณ การกินเพื่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องซับซ้อนเกินไป หากคุณรู้สึกว่าถูกครอบงำโดยคำแนะนำด้านโภชนาการและการรับประทานอาหารที่ขัดแย้งกัน แสดงว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว ดูเหมือนว่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่บอกคุณว่าอาหารบางอย่างดีสำหรับคุณ คุณจะพบคำพูดที่ตรงกันข้าม ความจริงก็คือแม้ว่าอาหารหรือสารอาหารบางชนิดได้รับการแสดงว่ามีผลดีต่ออารมณ์ 

แต่รูปแบบอาหารโดยรวมของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด รากฐานที่สำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพควรแทนที่อาหารแปรรูปด้วยอาหารจริงทุกครั้งที่ทำได้ การรับประทานอาหารที่ใกล้เคียงกับวิธีที่ธรรมชาติสร้างให้มากที่สุด สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับวิธีคิด รูปลักษณ์ และความรู้สึกของคุณ

พื้นฐานของการกินเพื่อสุขภาพ แม้ว่าอาหารที่รุนแรงบางอย่างอาจแนะนำเป็นอย่างอื่น เราทุกคนต้องการความสมดุลของโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุในอาหารของเราเพื่อรักษาร่างกายให้แข็งแรง คุณไม่จำเป็นต้องตัดอาหารบางประเภทออกจากอาหารของคุณ แต่ให้เลือกตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพจากแต่ละประเภท

โปรตีนให้พลังงานแก่คุณในการลุกขึ้นและไปต่อ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนการทำงานของอารมณ์และการรับรู้ โปรตีนมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่เป็นโรคไต แต่การวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าพวกเราหลายคนต้องการโปรตีนคุณภาพสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องกินผลิตภัณฑ์จากสัตว์มากขึ้น แหล่งโปรตีนจากพืชที่หลากหลายในแต่ละวันสามารถรับประกันได้ว่าร่างกายของคุณจะได้รับโปรตีนที่จำเป็นทั้งหมดที่จำเป็น เรียนรู้เพิ่มเติม “

อ้วน ไขมันไม่เหมือนกันทั้งหมด แม้ว่าไขมันที่ไม่ดีสามารถทำลายอาหารของคุณและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคบางชนิดได้ แต่ไขมันที่ดีจะช่วยปกป้องสมองและหัวใจของคุณ อันที่จริง ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น โอเมก้า 3 มีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและอารมณ์ของคุณ การเพิ่มไขมันที่ดีต่อสุขภาพในอาหารของคุณสามารถช่วยปรับปรุงอารมณ์ของคุณ เพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ และแม้กระทั่งตัดรอบเอวของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติม “

ไฟเบอร์ การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง (ธัญพืช ผลไม้ ผัก ถั่ว และถั่ว) สามารถช่วยให้คุณอยู่ได้เป็นปกติและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงผิวของคุณและช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ เรียนรู้

แคลเซียม นอกจากจะนำไปสู่โรคกระดูกพรุนแล้ว การได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอในอาหารยังส่งผลต่อความวิตกกังวล ซึมเศร้า และนอนหลับยากอีกด้วย ไม่ว่าอายุหรือเพศของคุณจะเป็นอย่างไร จำเป็นต้องรวมอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมไว้ในอาหารของคุณ จำกัดอาหารที่ทำให้แคลเซียมหมดสิ้น และได้รับแมกนีเซียมและวิตามินดีและเคเพียงพอเพื่อช่วยให้แคลเซียมทำงานได้ เรียนรู้เพิ่มเติม 

คาร์โบไฮเดรตเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานหลักของร่างกายของคุณ แต่ส่วนใหญ่ควรมาจากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ผ่านการขัดสี (ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้) มากกว่าน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี การลดขนมปังขาว ขนมอบ แป้ง และน้ำตาลสามารถป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อารมณ์และพลังงานที่ผันผวน และการสะสมของไขมันโดยเฉพาะรอบเอวของคุณ

 

สนับสนุนโดย.    ถ่านเครื่องช่วยฟัง

3 วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโมเดอร์นา

การป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยล้างมือบ่อยๆเว้นระยะห่างซึ่งกันและกันแล้ว  ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา  การฉีดวัคซีนก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นสิ่งที่สำคัญจะช่วยป้องกันการติดเชื้อลดอาการรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตได้ ซึ่งในตอนนี้ประเทศไทยของเราก็เริ่มมีการฉีดวัคซีนโมเดอร์น่าซึ่งเป็นวัคซีนmRNA

หลายคนอาจจะฉีดไปแล้วและก็อาจมีอีกหลายคนที่เตรียมตัวที่จะไปฉีดวัคซีนโมเดอร์น่าดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนที่จะไปฉีดวัคซีนโมเดอร์น่าจะได้ปลอดภัยแล้วก็ผลข้างเคียงน้อยที่สุด

วิธีที่หนึ่ง ตรวจเช็คประวัติวัคซีนของตนเองก่อน ใครที่กำลังจะไปฉีดวัคซีนโมเดอร์น่าให้เช็คตัวเองว่าตนเองฉีดวัคซีนอะไรไปแล้วบ้างและฉีดไปเมื่อไหร่ไม่ว่าจะเป็น ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า ให้ดูตนเองว่าฉีดอะไรไปแล้วบางคนหนึ่งเข็มบางคนสองเข็มไปแล้ว

เพราะว่าในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันแต่สำหรับใครที่ไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อนเลยแต่ได้ฉีดวัคซีนโมเดอรืน่าเป็นเข็มแรกเลยก็แนะนำว่าให้ฉีดโมเดอร์น่าสองเข็มโดยห่างกันหนึ่งเดือนก็จะได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

วิธีที่สอง พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ว่าจะวัคซีนไหนก่อนที่เราจะไปฉีดวัคซีนควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอควรนอนหลับชนิดอย่างน้อย 6-8 ชั่วงโมงขึ้นไปก็จะเป็นการทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงสดชื่นเมื่อเราไปฉีดวัคซีนแล้วผลข้างเคียงก็จะน้อยที่สุด

แต่สำหรับใครที่สงสัยว่าตัวเองเข้ากะดึกบางทีอยู่เวรและไม่สามารถที่จะนอนได้เยอะขนาดนั้นก็ต้องบอกว่าสามารถฉีดได้ไม่ได้เป็นข้อห้ามว่าถ้าเรานอนน้อยห้ามฉีดเลยแต่สำหรับใครที่นอนได้ก็แนะนำว่าให้นอนให้ได้มากที่สุด

วิธีที่สาม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในเรื่องอาหารไม่มีอาหารไหนที่ห้ามโดยชัดเจนก่อนที่จะไปฉีดวัคซีนแต่เราแนะนำว่าให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์การที่เรารับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือว่ารับประทานอาหารอะไรที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีนก็จะทำให้สับสนได้ว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนว่าเกิดจากอาหารที่เรารับประทานหรือว่าเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีนนั่นเอง

ตัวอย่างเช่นชากาแฟเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีส่วนประกอบของคาเฟอีนเมือ่เรารับประทานเข้าไปแลวหลังฉีดวัคซีนเรามีอาการใจสั่นขึ้นมาก็จะทำให้เราเริ่มสับสนแล้วว่ามันเกิดจากการที่เราดื่มกาแฟหรือว่าเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีนนั่นเองดังนั้นแนะนำว่าใครที่ไม่เคยดื่มกาแฟหรือว่าชามาก่อนก็แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยง

แต่สำหรับใครที่ติดกาแฟไม่ดื่มแล้วปวดศีรษะแล้วก็อ่อนเพลียทำงานไม่ได้ก็แนะนำว่าให้ดื่มได้ตามปกติรวมไปถึงพวกแอลกอฮอล์ด้วยหลีกเลี่ยงได้ก็จะดี

อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ภูมิแพ้ หรือ หวัด กันแน่

ตอนอากาศเปลี่ยนบ่อยครั้ง บางเวลาร่างกายพวกเราบางทีอาจปรับเปลี่ยนตามไม่ทันรวมถึงภูมิต้านทานต่ำ นำมาซึ่งการทำให้ป่วยไข้หรือไม่สบาย เป็นหวัดใหญ่ได้นั่นเอง แม้กระนั้นจะมั่นใจได้เช่นไรว่าเจ็บป่วยเป็น  ภูมิแพ้ หรือ หวัด อากาศเพียงแค่นั้น

ภูมิแพ้ ไม่ได้มีสาเหตุจากการที่ร่างกายรับเชื้อไวรัส แต่ว่ามีเหตุมาจากระบบภูมิต้านทานของร่างกายของผู้เจ็บป่วยเอง โดยภูมิแพ้จะทำให้เกิดความผิดแปลกขึ้นของจมูกรวมทั้งตา แนวโน้มจะเกิดขึ้นที่จมูก และรอบ ๆ หัว ซึ่งจะแตกต่างจากหวัดที่จะส่งผลเสียต่อระบบภายในร่างกาย แล้วก็ระบบหาย

อาการของภูมิแพ้ส่วนมาก จะพบว่ามี การจาม น้ำมูกไหล คันยุบยิบ ๆ รอบ ๆ ตา กับจมูก ส่วนอาการที่แตกต่างกันระหว่างภูมิแพ้อากาศกับหวัด ได้แก่ ไม่มีไข้ ชีพจรไม่เต้นถี่ ไม่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามร่างกาย แม้กระนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการเหน็ดเหนื่อยได้

ภูมิแพ้ หรือ หวัด ภูมิแพ้อากาศนอกจากจะเกิดจากการที่มีอุณหภูมิรอบตัวหรือคุณภาพอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันแล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการที่สูดดมสารที่ทำให้เกิดการกระตุ้นภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็น ควันรถยนต์ ฝุ่น กลิ่นต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้เป็นภูมิแพ้อากาศได้ทั้งนั้น

โดยเมื่อมีอาการภูมิแพ้กำเริบขึ้น เชื่อว่าหลาย ๆ คน ก็จะซื้อยาที่ร้านขายยามากินเอง โดยที่ไม่ได้ไปตรวจเข้ารับการรักษาปรึกษาแพทย์ ด้วยเหตุนี้อาจทำให้มีการรักษาที่ไม่ตรงประเด็น และเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย

ควรดูแลตนเองอย่างไรในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ 

  • เลี่ยงการพบเจอสิ่งที่จะทำให้อาการกำเริบ ควันต่าง ๆ น้ำหอมต่าง ๆ เกสรดอกไม้ 
  • ปรับอุณหภูมิรร่างกายไม่ให้เปลี่ยนแปลงกะทันหัน เมื่อเดินผ่านอากาศร้อน ๆ ควรพักในที่ร่ม ๆ ก่อน ค่อยไปสู่ที่ ๆ เย็นหรืออุณหภูมิต่ำ ๆ
  • ทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ เพื่อกำจัดฝุ่นละอองในบ้าน
  • ออกกำลังกาย สร้างภูมิคุ้มกัน
  • พบแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำ

เป็นหวัด เกิดขึ้นจากการรับเชื้อโรคเชื้อไวรัส Influenza virus พบว่าจะมีอาการปรากฎเมื่อได้รับเชื้อประมาณ 96 ชั่วโมง โดยมีลักษณะเด่น จากการที่จับไข้สูงลอย 37.8-39.0 องศาเซลเซียส ไข้สูงแบบทันทีทันควัน มีลักษณะอาการปวดศีรษะหนัก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามร่างกาย อ่อนล้าอย่างยิ่ง ทั้งอาจพบเจออาการไอที่ร้ายแรงร่วมกับลักษณะการเจ็บทรวงอกด้วย ลักษณะของหวัดจะใกล้เคียงกับอาการโรค Covid-19 แม้กระนั้นหวัดสามารถทุเลาหายได้เองหรือเริ่มดียิ่งขึ้นภายในช่วงเวลาไม่เกิน 14 วัน

 

ดังนั้น พวกเราพึงสังเกตตนเองเมื่อเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเพื่อหาวิธีดูแลตนเองให้ห่างไกล ให้ทันก่อนที่จะมีอาการ หรือดูแลสุขภาพเบื้องต้น เพื่อที่จะทำให้ภูมิต้านทานร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ป่วยง่าย อย่างการออกกำลังกาย  

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวยใต้ดิน

น้ำมันปลาดีต่อสุขภาพในเรื่องใดบ้าง

– ต่อต้านการอักเสบ

การอักเสบ เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิต้านทานดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลอมปนที่ไปสู่ร่างกายอย่างแบคทีเรีย เชื้อไวรัส สารเคมี รวมทั้งอาการบาดเจ็บของร่างกาย ซึ่งการอักเสบเรื้อรังบางทีอาจเกี่ยวพันกับโรคหรือการเจ็บป่วยที่ร้ายแรง อย่างเช่น โรคอ้วน เบาหวาน  แล้วก็โรคหัวใจ ฯลฯ

– โรคข้อรูมาตอยด์

การกินน้ำมันปลา ร่วมกับยาที่ใช้รักษาโรคดังกล่าว สามารถช่วยทำให้อาการดีขึ้น  คนที่กินน้ำมันปลาจะมีความรู้สึกเจ็บที่เกิดขึ้นลดน้อยลง กระทั่งมีการใช้ยาลดลักษณะการบาดเจ็บลดน้อยลงด้วย ทั้งการที่แพทย์ใช้น้ำมันปลาโดยผ่านทางเส้นโลหิต ก็มีประสิทธิภาพลดบวมรวมทั้งข้อแข็งในผู้เจ็บป่วยรูมาตอยด์ได้อีกด้วย

– กระดูกพรุน

งานศึกษาเรียนรู้ของท่านหนึ่ง ได้พูดไว้ว่า การกินน้ำมันปลาเท่านั้น หรือกินร่วมกับCa รวมทั้งน้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส มีประสิทธิภาพที่ช่วยชะลอการลดลงของกระดูกรวมทั้งเพิ่มความหนาแน่นของมวลบริเวณที่ต้นขา แล้วก็สันหลังของคนแก่ที่มีอาการป่วยด้วยโรคกระดูกพรุนได้ อย่างไรก็ตามการกินน้ำมันปลาอาจไม่มีผลต่อการชะลอการสูญเสียกระดูกในคนแก่ที่เป็นโรคข้อเสื่อมที่หัวเข่า

 – โรคเส้นเลือดสมอง

การบริโภคปลาในอย่างน้อย 1-2 ครั้ง ภายใน 14 วัน จะช่วยลดการเสี่ยงต่อโรคเส้นโลหิตสมองลง 27 % แต่ว่าแม้เป็นการบริโภคในจำนวนที่สูงกว่า 46 กรัมต่อวัน จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อโรคนี้อย่างยิ่ง การกินปลาไม่ช่วยลดการเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดสมองในคนที่จำต้องใช้ยาแอสไพริน เพื่อคุ้มครองปกป้องอันตรายจากโรคนี้อยู่แล้ว

– ช่วยทำนุบำรุงสุขภาพหัวใจ

มีงานศึกษาเรียนรู้จำนวนมากที่ชี้ว่าการบริโภคน้ำมันปลาบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และในบางทีอาจช่วยเพิ่มระดับ cholesterol ประเภทที่ดีภายในร่างกาย รวมทั้งยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์แล้วก็ความดันเลือดได้อีกด้วย

– รักษาภาวการณ์หรืออาการทางจิต

ด้วยเหตุว่า น้ำมันปลา มีกรดไขมันOmega-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่สำคัญต่อหลักการทำงานของสมอง ผู้คนจำนวนมากก็เลยมั่นใจว่าน้ำมันปลาบางทีอาจช่วยสำหรับในการรักษาภาวการณ์หรืออาการทางด้านจิตใจ ก็เลยมีงานศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับคุณภาพของน้ำมันปลาในด้านนี้อยู่บ้าง มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งชี้ว่าการบริโภคน้ำมันปลาบางทีอาจช่วยปกป้องสภาวะทางจิตบางประเภทได้ รวมทั้งยังมีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่าการบริโภคน้ำมันปลาบางทีอาจช่วยทุเลาลักษณะของโรคไบโพลาร์

คุณค่าของ น้ำมันปลา นั้นมีประโยชน์มากจริง ๆ และนอกจากที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้แล้ว มันยังมีประโยชน์ ต่อสุขภาพตา สุขภาพผิว ช่วยเรื่องการลดไขมันได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามนอกจากการเลือกทานสิ่งที่มีประโยชน์แล้ว การบริหารร่างกายควบคู่ไปด้วยก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพ

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวยหุ้น

โรคตาขี้เกียจ

             โรคตาขี้เกียจ สำหรับคนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก แต่คนที่จะรู้จักโรคนี้ได้เป็นอย่างดีก็คือ บรรดาคุณพ่อ และคุณแม่มือใหม่ ที่มักจะพบปัญหาลูกมีอาการของโรคตาขี้เกียจ ซึ่งอาการของโรคชนิดนี้ก็คือ การมีปัญหาด้านสายตา เกี่ยวกับเรื่องของการมองเห็นภาพต่างต่างอาจจะไม่ค่อยชัดเจนเท่ากับคนสายตาปกติ  สำหรับโรคชนิดนี้เรามักจะเห็นว่าจะเกิดกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 7 ปี ซึ่งบางครั้งการเป็นโรคตาขี้เกียจนั้น อาจจะเป็นทั้งสองข้าง หรือบางครั้งอาจจะมีอาการแค่เพียงข้างเดียวเท่านั้น 

    หากมองด้วยตาเปล่าอาการของโรคตาขี้เกียจนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับคนเป็นโรคตาเข  เพียงแค่อาการของโรคตาขี้เกียจนั้น จะไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา จะเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นที่ทำให้เราสามารถมองเห็นได้ บางครั้งเพียงแค่กระพริบตาอาการตาขี้เกียจก็หายไป  และสักพักก็อาจจะกลับมาเป็นใหม่ได้อีกรอบนั่นเอง อย่างไรก็ตามสำหรับโรคนี้นั้นจะเป็นช่วงที่เด็กกำลังมีพัฒนาการทั้งด้านสายตาและการมองเห็น

          สำหรับอาการของโรคนี้อย่างที่กล่าวไปตอนต้นแล้วนั่นเก็คือ การที่เด็กจะมีการมองเห็นของลุกตาในลักษณะที่ลูกตาอาจจะมีการเบนเข้าหากัน หรือบางคนอาจจะเบนออกห่างกันก็ได้  การมองเห็นอาจจะมองเห็นไม่ค่อยชัดเจนมากนัก หรือบางคนหากมีอาการมากอาจจะมีอาการปวดหัวร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ตามอาการนี้เรามักจะเห็นว่าเกิดกับเด็กแรกเกิดนั้นน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วจะพบกับเด็กที่มีอายุประมาณ 3-5 ปี

         ถ้าหากผู้ปกครองพบว่าลูกของคุณอาจจะมีอาการคล้ายกับการเป็นโรคตาขี้เกียจแล้วล่ะก็ ควรจะรีบพาไปพบแพทย์ทางด้านสายตาให้ช่วยตรวจสอบและรักษา เพราะอาการนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ ยิ่งรักษาก่อนอายุ 7 ปีจะยิ่งได้ผลเร็วมากที่สุด แต่หากปล่อยเอาไว้ไปรักษาช่วงอายุ 7-9 ปี ความยากในการรักษาให้หายขาดนั้นจะยากยิ่งขึ้นและอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานมากขึ้น แต่ก็ยังคงสามารถรักษาอาการให้หายได้เช่นเดียวกัน 

        สำหรับเด็กที่ป่วยเป็นโรคตาขี้เกียจนี้ สามารถรักษาอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 17 ปี แต่ถ้าหากเกิดกว่า 17 ปีไปแล้ว จะไม่สามารถรักษาเบื้องต้นได้แล้ว ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  อย่างไรก็ตามสำหรับการรักษาโรคตาขี้เกียจนี้ทำได้หลายอย่างแต่การรักษาที่ไม่ต้องเสียเงินเลยก็คือ ให้ทำการปิดตาข้างใดข้างหนึ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน และทำทุกวัน โดยมีการปิดตาสลับข้างกันทุกวัน  ต่อเนื่อง 6  เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล และช่วงที่ปิดตานั้นต้องให้ตาอีกข้างใช้สายตาให้มากที่สุด ดังนั้นตอนปิดตาควรให้เด็กดูทีวีจะดีที่สุด

 

สนับสนุนโดย    สมัครเว็บหวยฮานอย

นอนกรนแบบนี้อันตราย รีบแก้ไขด่วน

การนอนกรนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ จมูกตีบ คางเล็ก ลิ้นไก่โต หรือจะเป็นเพราะพฤติกรรมที่ทำให้อ้วน ดื่มแอลกอฮอล์ เหน็ดเหนื่อย และอื่น ๆ  

การจัดหมวดหมู่ของอาการนอนกรนมีทั้งหมด 2 แบบ คือ

  1. การนอนกรนแบบปกติ

มีสาเหตุมาจากการตีบแคบของช่องทางสำหรับหายใจในส่วนเล็ก ๆ โดยไม่ได้ปิดสนิทลงหมด โดยเหตุนี้ยังมีอากาศไหลผ่านไปสู่ร่างกายพวกเราได้ แม้กระนั้นช่องคอที่แคบจะกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการเขย่ากระเทือน กลายเป็นเสียงกรนดังขึ้น ซึ่งอาจจะไม่รุนแรงอะไรนัก แค่ส่งผลเป็นความอารมณ์เสียต่อคนที่นอนร่วมห้องด้วยเพียงแค่นั้น หรือเป็นอย่างมากอาจมีอาการคอแห้งผากตอนตื่นมาได้

  1. การนอนกรนแบบอันตราย

คนที่นอนกรนแบบปกติมีลักษณะอาการรุนแรงขึ้น โดยกล้ามเนื้อในช่องคอมีการหย่อนยานตัวลงมากขึ้น ช่องทางสำหรับหายใจที่เคยตีบแคบเล็กน้อย ก็จะแคบลงมาจนถึงปิดสนิท และก็เมื่อช่องทางสำหรับหายใจปิดสนิท ก็จะไม่มีอากาศไหลผ่านไปสู่ร่างกายพวกเราได้เลย แล้วก็แน่ ๆ ว่า เมื่อไม่มีอากาศไหลผ่าน ก็ไม่มีการกระตุกกระเทือนของกล้ามเนื้อ เป็นต้นเหตุที่ทำให้เสียงกรนจะหายไปตอนขณะนึง ตอนนั้นเองที่มีการหยุดหายใจเกิดขึ้น รวมทั้งเมื่อระดับOxygenในเลือดต่ำลงถึงระดับหนึ่งจากการหยุดหายใจ ร่างกายจะมีการสนองตอบสภาวะนี้ด้วยการที่การนอนของผู้ที่กรนนั้นจะถูกกีดกั้นทำให้ตื่น

โดยจะมีลักษณะอาการเสมือนผวา หรืออาการราวกับสำลักน้ำลายตัวเอง และจากนั้นก็กลับมาเริ่มกรนใหม่ นอกเหนือจากการที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อคนที่อยู่รอบข้างแล้ว หากไม่รักษาอาจมีอาการอยากนอนหรือเผลอหลับในตอนกลางวัน ทำให้เรียนหรือดำเนินงานได้ไม่เต็มกำลัง อันตรายหากนอนในขณะขับขี่รถบางทีอาจเกิดอุบัติเหตุในถนนได้ นอกจากจะมีอัตราเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคอื่น ๆ ได้ อาทิเช่น โรคความดันเลือดสูง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายกะทันหันจากการขาดเลือด หัวใจเต้นผิดจังหวะ 

 

จะรักษาอย่างไร

สำหรับผู้ที่มีอาการในระดับที่ไม่รุนแรง การลดน้ำหนัก บริหารร่างกาย  งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือเลิกสูบบุหรี่ก็สามารถช่วยได้ หรือ การใส่ฟันยาง ซึ่งเป็นกรรมวิธีการรักษานี้บางทีก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในคนที่เริ่มมีอาการ มันจะช่วยเปิดช่องการหายใจส่วนต้นให้กว้างขึ้น เพราะขากรรไกรด้านล่างรวมถึงล้นจะยื่นมาด้านหน้าขณะสวมใส่ฟันยาง แต่ทั้งนี้การสวมใส่ฟันยางจะไม่ช่วยในผู้ที่มีอาการมานานหรือระดับรุนแรง

ถ้าเกิดคนป่วยมีภาวการณ์ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วในระดับอันตรายปานกลางถึงมาก จำต้องได้รับการดูแลรักษาด้วยแนวทางอื่นเพิ่มเติมอีก ดังเช่น การผ่าตัดเยื่อคอ ขากรรไกร ลิ้น หรือลิ้นไก่ เพื่อช่วยเปิดช่องหายใจให้กว้างขึ้น การใช้งานเครื่องCPAPเป่าลมสำหรับเพื่อการรักษาภาวการณ์หยุดหายใจขณะนอนหลับ ซึ่งถือได้ว่าแนวทางที่เยี่ยมสุดในตอนนี้ โดยจะเป่าลมผ่านทางสายยาง ไปยังจมูกของผู้ที่มีอาการนอนกรน เพื่อช่วยเปิดขยายทางหายใจส่วนต้นไม่ให้ตีบในตอนที่พวกเรานอน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    หวยฮานอยพารวย

การเงิน ติดโควิด19 

ในปัจจุบันนี้ เชื่อเหลือเกินว่าคงมีหลายคงที่มีปัญหาเรื่องการเงิน จากผลกระทบหลายๆอย่างที่มาจากโรคระบาดโควิด19 ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อการดำรงชีพ หรือการทำงาน แต่ที่หนักที่สุดคงจะเป็นผลการะทบของเรื่องการเงินเป็นหลัก ซึ่งคงจะทำให้หลายๆคนกังวลว่าจะฝ่าวิกฤตินี้ไปกันได้วอย่างไรดี ซึ่งสิ่งสำคัญในตอนนี้คงต้องตรวจสุขภาพการเงินตัวเองให้ดี ถึงจะวางแผนกันต่อไปได้ ส่วนวิธีการตรวจนั้นก็คือ

ในส่วนของรายรับ เราต้องมาประเมินกันก่อนว่าในแต่ละเดือนนั้น รายได้ของเรานั้นมีผลกระทบเป็นอย่างไรและจะกระทบต่อไปอีกกี่เดือน เช่น รายรับที่จะได้มาจากระยะสั้นๆ เช่นขายของออนไลน์ หรือรายรับที่ไม่เปลี่ยนแปลง เช่นรายรับจากเงินเดือนที่องค์กรไม่มีผลกระทบ หรือรายรับที่ลดลงจากสภาพเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มพวกเจ้าของธุรกิจ หรือ ไม่มีรายรับ เช่นทำงานในสายท่องเที่ยว หรือพนักงานชั่วคราว

ในส่วนของรายจ่าย ให้ลองแบ่งรายจ่ายออกมา เป็น รายจ่ายจำเป็นเพื่อการดำรงชีพ และรายจ่ายที่เป็นภาระจำเป็นต้องจ่าย ส่วนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไป หรือลดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในวิกฤติแบบนี้ ซึ่งในส่วนรายจ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าดูแลครอบครัว พวกนี้ถือว่าเป็นรายจ่ายในการดำรงชีพ และรายจ่ายที่เป็นภาระ เช่นพวกค่าผ่อนหนี้สินต่างๆที่เราได้ก่อไว้ ซึ่งโดยตามหลักการวางแผนการเงินของมนุษย์เรานั้น เราไม่ควรมีค่าผ่อนหนี้เกิน 35% ของรายได้ทั้งหมด

จากนั้นให้นำรายรับลบรายจ่าย เพื่อหากระแสเงินสดคงเหลือในแต่ละเดือน ว่าเราจะเหลือเงินเท่าไหร่ ซึ่งถ้ากระแสเงินสดเราติดลบ เราควรจะวางแผนไว้ล่วงหน้าได้เลย เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาหนี้สินได้ถูก

อีกอย่างควรจะสำรวจ ทรัพย์สิน และหนี้สิน ที่มี พร้อมทั้งประเมินเป็นมูลค่าการตลาดในปัจจุบัน โดยแบ่งเกณฑ์ดังนี้

สินทรัพย์สภาพคล่อง เช่น บัญชีเงินฝาก ซึ่งตามหลักการสินทรัพย์สภาพคล่องที่ดีหากเมื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดแล้วมูลค่าเงินต้นต้องไม่หายไป โดยตรงจุดนี้เตรียมไว้สำหรับรายจ่ายในอนาคตข้างหน้า เผื่อสัก 3-6 เดือน 

สินทรัพย์ที่ลงทุน ไว้ เช่น พวกกองทุน หรือหุ้น และที่ดิน

ส่วนหนี้สินก็ต้องแบ่งเป็น หนี้สินระยะสั้น เช่นหนี้บัตรเครดิต และหนี้สินระยะยาว คือหนี้ซื้อบ้าน หนี้รถยนต์  โดยต้องสรุปออกมาเพื่อเตรียมไว้สำหรับที่จะต้องกันเงินไว้ชำระหนี้ หรือหากไม่ได้จะได้เตรียมที่จะเจรจา

สุดท้าย ประเมินทั้งหมด ว่ากระแสเงินสดยังคงเหลือหรือไม่ ถ้าหากยังติดลบ และสินทรัพย์สภาพคล่องที่มีเก็บไว้ไม่เพียงพอกับเงินที่ขาดหายไป แสดงว่าการเงินของเราอยู่ในภาวะเสี่ยง ต่อความอยู่รอดในวิกฤตินี้กันแล้ว

 

สนับสนุนโดย    หวยฮานอยซื้อยังไง

ลูกค้าไทยไลอ้อนแอร์ ตกเงินเพิ่มอีก 248 คน

    เกี่ยวกับปัญหาการลดจำนวนพนักงานของบริษัทต่างๆ ตั้งแต่ตั้งปีที่ผ่านมา มีหลายบริษัทที่ต้องลดจำนวนคนงานลง เพื่อที่จะสามารถประคับประคองบริษัทให้อยู่รอดได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังทรุดอยู่แบบนี้ หลายบริษัทมีการพยายามยื้อเอาไว้เพื่อช่วยเหลือพนักงานของตนเอง ด้วยการแบ่งงานกันทำ สลับวันทำงานกัน

และการลดเงินเดือนลงมา แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถที่จะกลับมากู้สถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังแย่ อย่างในตอนนี้เอาไว้ได้และถึงแม้ รัฐบาลจะออกมาช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เราก็รู้กันดีว่า จะมีเพียงแค่บริษัทและบางธุรกิจเพียงเท่านั้นที่สามารถทำให้ธุรกิจดีขึ้นได้ แต่ยังมีอีกหลายบริษัทและอีกหลายธุรกิจที่ต้องรออีกเป็นปี กว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้นั่นเอง 

        สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับการบิน ตอนนี้ต้องบอกเลยว่า อยู่ในขั้นวิกฤตหนักมากเพราะถึงแม้ตอนนี้รัฐบาลจะอนุญาติให้มีการบินได้แล้วแต่ก็เป็นเพียงการบินรับส่งลูกค้าในประเทศอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีรายได้เข้ามาบ้างแต่ไม่ได้มากพออย่างเมื่อก่อน เพราะยอดเงินที่สร้างกำไรให้กับบริษัทที่ทำเกี่ยวกับสายการบินนั้น เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นการเป็นระหว่างประเทศ

สำหรับการบินในไทยนั้น ราคาค่าโดยสารที่ถูก และคนยังมีช่องทางในการเดินทางหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับรถยนต์ไปเอง หรือนั่งรถโดยสารไป ดังนั้นการเดินทางของคนในประเทศจึงไม่ได้เป็นการพึ่งเฉพาะการนั่งเครื่องบินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 

    ข่าวล่าสุดในตอนนี้บริษัทไทยไลออนแอร์ ได้มีการประกาศออกมาเกี่ยวกับการลดจำนวนพนักงานลง เพราะไม่สามารถที่จะสู้กับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ต้องแบกรับเอาไว้ไม่ไหวแล้วนั้นเอง ตอนนี้ทางสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ได้ประกาศลดพนักงานลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 248 คน จากที่เคยลดจำนวนพนักงานไปก่อนหน้านั้น  ซึ่งช่วงเดือนก่อนหน้าที่ผ่านมาก็ลดไปแล้ว 228 คน  และยังมีการเลิกจ้างนักบินไปอีก 20 คน ด้วยกัน สำหรับบริษัทไทยไลอ้อนแอร์นั้น ตอนนี้มีการเปิดเส้นทางสำหรับบินภายในประเทศอยู่ที่ 12 เส้นทางเพียงเท่านั้น

เพราะเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นการบินระหว่างประเทศที่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้นั่นเอง และนี่คือสาเหตุหลักว่าทำไมตอนนี้แม้รัฐบาลจะออกมาบอกว่าให้ทุกคนหันมาดำเนินธุรกิจกันได้แล้ว เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่ยังขาดทุนและต้องปิดตัวลงรวมถึงลดคนงานลง นั่นก็เพราะว่าการทำธุรกิจแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน ในตอนนี้หากธุรกิจไหนที่ต้องเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เป็นอันต้องขาดทุน หรือแทบจะปิดกิจการเกือบธุรกิจเลยทีเดียว ซึ่งคงต้องรอให้มีการเปิดการบินข้ามประเทศได้นั่นเอง ปัญหาการเงินของบริษัทการบินถึงจะดีขึ้น

 

 

สนับสนุนโดย  หาเงินจากหวยหุ้น

โรคร้ายที่มาพร้อมควันบุหรี่

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไม วัยรุ่นส่วนใหญ่จึงชอบดูดบุหรี่กัน ก็เพราะการดูดบุหรี่นั้นสายทำให้เราบรรเทาความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ อีกทั้งยังทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย เพราะในบุหรี่นั้นจะมีสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า นิโคติน ซึ่งสารตัวนี้หากร่างกายของเราได้รับเขาไปแล้วจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย โดยข้อดีของการดูดบุหรี่นั้นก็มีมากมายไม่แพ้ข้อเสียเลยก็ว่าได้

แต่สมัยนี้เชื่อว่าหลายคนคงมองข้ามภัยอันตรายที่อาจมาพร้อมควันบุหรี่ ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบนั้นไม่เพียงแต่เป็นตัวเราเองเท่านั้น ยังมีควรอบข้างอีกมากมายที่อาจได้รับผลกระทบจากการควันบุหรี่ที่เราดูดกันอยู่บ่อยๆ ผู้ที่ดูดบุหรี่เป็นประจำส่วนใหญ่แล้วมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ง่าย เผลอๆอาจทำให้เสียชีวิตจากการดูดบุหรี่เลยก็ได้

ดังนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าการดูดบุหรี่จะมีข้อดีอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับผลเสียที่อาจตามมาทีหลังด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม วันนี้เราจะมายกตัวอย่างความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดูดบุหรี่ จะมีโรคอะไรบ้าง จะร้ายแรงมาแค่ไหน วันนี้เรามีคำตอบ

โรคหัวใจ ส่วนใหญ่จะพบว่าคนที่สูบบุหรี่ และได้รับควันบุหรี่เป็นประจำ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งปกติแล้วคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำจะรู้สึกแน่นตรงหน้าอก และรู้สึกอึดอัดได้ง่าย ดังนั้น ภัยอันตรายที่มาพร้อมกับควันบุหรี่ ถือว่าร้ายแรงเป็นอย่างมาก หากใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย ควรที่จะหลีกเลี่ยงการดูดบุหรี่ หรือหากใครที่ขาดไม่ได้ หรือมีความจำเป็น ก็ควรสูบในปริมาณที่พอเหมาะ 

โรคหลอดเลือดตีบ พบว่าคนที่ได้รับควันบุหรี่ หรือสูดควันบุหรี่เข้าไปในร่างกายเป็นจำนวนมาก จะช่วยเข้าไปเพิ่มการเกิดโรคหลอดเลือดตีบได้เร็วขึ้น และอาจมีอาการข้างเคียงคือ การเป็นอัมพาต บางรายอาจมีอาการร้ายแรงจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตลงได้ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด หากเห็นใครที่กำลังดูดบุหรี่อยู่ ก็ควรที่จะอยู่ห่างเพื่อป้องกันตนเองไม่ให้สูดดมควันบุหรี่เยอะเกินไปจนเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายขึ้น

โรคถุงลมปอดโป่งพอง รู้หรือไม่ว่า ควันบุหรี่อันตรายมากแค่ไหน ควันบุหรี่สามารถเข้าไปทำลายเยื่อบุภายในหลอดลม ที่มีหน้าที่ในการฟอกเลือดในปอด และเมื่อไหร่ที่ร่างกายของเรามีเยื่อบุหลอดลมที่หนาขึ้น หลอดลมก็จะตีบลงและทำให้การหายใจนั้นลำบากมากกว่าเดิม จึงส่งผลให้เกิดเป็นโรคถุงหลอดลมโป่งพองขึ้นนั่งเอง ดังนั้นแล้ว หากไม่อยากป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการดูดบุหรี่ หรือถ้าเลิกได้ก็ควรเลิก เพื่อสุขภาพร่างกายที่ของตัวคุณเอง

 

สนับสนุนโดย    หวยลาวจ่ายบาทละเท่าไร