การที่เรากินบะหมี่กิ่งสำเร็จรูปอย่างเป็นประจำจะมีผลต้องสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง

บะหมี่กิ่งสำเร็จรูปจะเป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่นิยมที่จะกิน เพราะว่าเป็นอาหารที่สามารถจะทำกินได้ง่าย และมีราคาที่ถูกมากๆ ซึ่งเรียกได้เลยว่าเป็นอาหารในช่วงที่เราไม่ได้มีตัง หรือเป็นอาหารในช่วงที่เงินของเรายังไม่ออกเลย แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่อร่อยและมีความประหยัดมากๆ

นอกจากนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังเป็นอาหารที่เราสามารถทำได้หลากหลายเมนู จึงทำให้หลายๆคนมีการติดการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากๆ และได้มีการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่าการที่กินข้าวปกติด้วย แต่ในการที่เราได้มีการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากเกินไปก็จะมีผลเสียมากมายที่สามารถจะเกิดต่อร่างกายของเราได้ ซึ่งจะมีอันตรายมากมายที่สามารถเกิดขึ้นได้ดังนี้

  1. การที่เราได้รับโซเดียมมากเกิน

การที่เรามีการกินบะหมี่สำเร็จรูปจะมีโซเดียมที่อยู่ภายในเครื่องปรุงและเส้นบะหมี่ ซึ่งได้มีการทำเป็นผงและได้มีการอบแห้งมาจากโรงงานที่ทำการผลิต และโซเดียมในบะหมี่จะมีปริมาณที่มาก เพราะว่าในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีปริมาณของโซเดียมนั้นมากถึง 1600 มิลลิกรัม ซึ่งเราควรที่จะมีการกินโซเดียมในแต่ล่ะวันเพียงแค่ 2400มิลลิกรัม เพียงเท่านั้น และในการที่เราได้มีการกินบะหมีกึ่งสำเร็จรูปบ่อยๆเราก็จะมีการที่กินโซเดียมเกินกว่าที่ร่างกายของเราจะมีการรับในแต่ล่ะวันมากๆ

  1. การที่มีการเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ

การที่เราได้มีการกินโซเดียมต่างๆมากเกินกว่าที่ร่างกายของเราต้องการที่จะได้รับในแต่ล่ะวัน เราก็จะสามารถที่มีการเกิดขึ้นของโรคต่างๆที่ได้มากับการที่เรามารกินโซเดียมที่เยอะมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็น โรคไต การบวมของอวัยวะต่างๆ โรคความดันโลหิต และโรคหัวใจ เป็นต้น แต่ในปัจจัยความเสี่ยงไม่ได้มีแค่เพียงโซเดียมเพียงเท่านั้น แต่ยังจะมีไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายของเรามากๆ ซึ่งไขมันจะเป็นน้ำมันที่ใช้ในการทอดเส้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

  1. การที่ทำให้ร่างกายของเราเกิดขาดสารอาหาร

การที่เราได้มีการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเราจะมีการได้รับสารอาหารเพียงแค่ไม่กี่ชนิด ซึ่งถ้าที่เราได้มีการกินเพียงแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างเป็นประจำก็จะสามารถทำให้เรามีการขาดสารอาหารที่ง่าย เพราะว่ากระบวนการในการผลิตของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะทำให้สารอาหารต่างๆมีการขาดหายไปมาก ซึ่งในการที่เราจะทำการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้เราก็จำเป็นที่จะต้องมีการเติมผักและเนื้อสัตว์ต่างๆลงไปในการกิน เพื่อที่จะทำให้เราไม่ได้มีการขาดสารอาหาร

 

สนับสนุนโดย.  วิธีสมัครหวยออนไลน์

เพราะบอกให้ลูกค้าลงชื่อนก่อนเข้าร้านเซเว่น พนักงานสาวถูกหนุ่มหัวร้อนหัวหมวกันน็อกตีหน้า

           พนักงานสาวที่ทำงานที่ร้านเซเว่นสาขาหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี  ถูกลูกค้าหนุ่มทำร้ายดวยการใช้หมวกกันน็อกตีที่ใบหน้า เพียงเพราะพนักงานบอกให้ลูกค้าลงชื่อก่อนเข้าร้าน  นอกจากทำร้ายแล้วลูกค้าหนุ่มยังพูดจาข่มขู่ จนพนักงานต้องไปแจ้งความดำเนินคดี

               เหตุการณ์ ลูกค้าทำร้ายพนักงานเซเว่น นี้มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 13 เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564  โดยมีการแสดงภาพเป็นกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าร้านเซเว่น ซึ่งร้านนี้อยู่บริเวณตลาดกอบกาญจน์นฤมิต  ซี่งตลาดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า ตลาดแม่ครู

             สำหรับภาพในกล้องวงจรปิดที่มีแชร์กันอยู่นั้นจะเห็นได้ว่าในช่วงเวลามาประมาณเช้าตรู่ ซึ่งตามเวลาในกล้องระบุเป็น 06.00 น.  ระหว่างนั้นก็มีลูกค้าเดินเข้ามาภายในร้านเซเว่นตามปกติ แต่มีลูกค้าชายคนหนึ่งใส่เสื้อยือดสีแดง กางเกงขาสั้น  เขากำลังเดินเข้ามาภายในร้านเซเว่นและในตอนนั้นเอง พนักงานของร้านก็บอกให้เขาทำการลงชื่อก่อนเข้าร้าน ซึ่งการลงชื่อนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ลูกค้าลงชื่อทุกครั้งก่อนเข้าไปใช้บริการที่ไหนก็ตามเพื่อที่จะได้ตรวจสอบไทม์ไลน์ได้หากมีการติดเชื้อไวรัสโควิด

        แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมลงชื่อและแสดงอาการไม่พอใจ จึงได้ชี้หน้าและโวยวายด่าทอพนักงานหญิงคนดังกล่าวและที่สำคัญเขาได้เอาหมวกกันน็อกที่ถืออยู่ในมือฟาดไปที่ใบหน้าของพนักงานเซเว่นหญิงคนนั้นด้วย ทำให้พนักงานได้รับบาดเจ็บ  แต่ลุกค้าคนดังกล่าวยังไม่พอใจ กลับชี้หน้าและยัง พูดจาข่มขู่ว่าจะกลับมาทำร้ายพนักงานหญิงคนดังกล่าวภายหลังอีกต่างหาก ทำให้พนักงานเกิดความหวาดกลัว ภายหลังลูกค้าออกนอกร้านเซเว่นไปแล้ว พนักงานหญิงที่ถูกทำร้ายจึงได้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดไปทำการแจ้งความ

          จากเหตุการณ์ที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์นี้ทำให้หลายคนที่ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดมองว่า การกระทำของชายคนดังกล่าวนั้น ทำเกินกว่าเหตุ เพราะอันที่จริงการลงชื่อก่อนเข้าไปใช้บริการร้านนั้น มีให้ทำทุกที และในขณะนี้เราทุกคนควรจะต้องร่วมมือกันในการลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการติดเชื้อและการแพร่เชื้อโควิด-19 เพราะในตอนนี้คนไทยหลายพันคนมีการติดเชื้อไวรัสแล้ว ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรู้ว่าคนที่ติดเชื้อนั้น เขาเดินทางไปที่ไหนบ้างเพื่อเช็คสถานที่ที่เป็นสถานที่เสี่ยงนั่นเอง  ดังนั้นเราคนไทยทุกคนควรจะให้ความร่วมมือในการลงชื่อทุกครั้งก่อนเข้าไปใช้บริการที่ไหนก็ตาม

  

สนับสนุนโดย    วิธีสมัครหวยออนไลน์