เปิดประโยชน์ของการใส่ถุงเท้านอน

เปิดประโยชน์ของการใส่ถุงเท้านอน การให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกาย เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะปัญหาสุขภาพร่างกาย เป็นหนึ่งสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา แม้กระทั่งในระหว่างที่เรานอนเองก็ตาม เราจึงจำเป็นที่จะต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า สิ่งสำคัญสำหรับการนอนหลับที่สามารถช่วยทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีได้นั้นคือ การใส่ถุงเท้านอน ถึงแม้หลายคนอาจจะมองว่าไม่เหมาะสม

เพราะเป็นการกักขังความร้อนไว้ภายในร่างกาย จนอาจก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมาได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใส่ถุงเท้านอนเรียกได้ว่าเป็นการช่วยให้เรานั้นมีระบบการไหงเวียนเลือดที่ดีมากยิ่งขึ้น และอ่าวยให้การนอนหลับของเรานั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้

นอกจากนี้การสวมใส่ถุงเท้าเข้านอนยังสามารถทำใด้เรารู้สึกอุ่น ปลอดภัย และนอนหลับได้ง่ามากขึ้นอีกด้วย ฉะนั้น เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะมีข้อขัดแย้งต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับการใส่ถุงเท้านอนว่าจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ ซึ่งวันนี้เรา  เครื่องช่วยฟังราคาถูก    ก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า ประโยชน์ของการใส่ถุงเท้านอนนั้นจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

1.ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค

แน่นอนว่าโรคภัยไข้เจ็บในสมัยนี้ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ฉะนั้น การใส่ถุงเท้านอน ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถช่วยป้องกันร่างกายของเราจะการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเรเนาต์ ซึ่งถือเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของหลอดเลือด จนก่อนให้เกิดความเครียดตามมา ฉะนั้น การที่เราสวมใส่ถุงเท้าก่อนนอน ก็จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

2.ช่วยป้องกันอาการหวัด

เมื่อไหร่ก็ตามที่เท้าของเราเย็นเกินไป จนส่งผให้อุณภูมิภายในร่างกายนั้นเปลี่ยนไป อาจจะทำให้เราเกิดอาการป่วยต่าง ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะอาการหวัด เพราะการที่เท้าของเราเย็น จะทำให้การไหลเวียนเลือดนั้นลดลง จนทำให้เราเป็นหวัดได้ ดังนั้น การที่เราสวมใส่ถุงเท้าก่อนนอน ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถป้องกันอาการหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 

3.ป้องกันอาการร้อนวูบ

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราจะต้องเข้านอน คนส่วนใหญ่ก็คงอยากที่จะหลับสบาย เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งแน่นอนว่า การที่เราสวมใส่ถุงเท้าก่อนเข้านอน จะสามารถรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายของเราได้ ทำให้เรารู้สึกสบายขึ้น อุ่น และไม่ทำให้ร่างกายของเราเย็นจนเกินไปนั่นเอง รับรองได้เลยว่า หากเราลองสวมใส่ถุงเท้าก่อนเข้านอนเป็นประจำ จะยิ่งทำให้เรารักษาสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

3 อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนนอนหากไม่อยากสุขภาพพัง

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การที่เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั้นถือเป็น หนึ่ง ในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การดำเนินชีวิตเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ จึงทำให้หลายๆคนนั้นเริ่มต้นที่จะหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง ไม่ว่าจะทำงานหนักหรือใช้ชีวิตกัน

อย่างเต็มที่มากขนาดไหนก็ตามหากเราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงให้แก่เราได้

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าหลายๆคนนั้นมักที่จะมีพฤติกรรมการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจนอาจทำให้ร่างกายนั้นได้รับผลกระทบ หรือบางคนอาจจะเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานอาหารก่อนนอน ซึ่งถือเป็น หนึ่ง ในสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม

เพราะถ้าหากเราทานอาหารก่อนเข้านอนอาจจะทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานหนักจนอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายหรืออาจทำให้เราเป็นกดไหลย้อนหรือท้องอืดได้ ฉะนั้น หากใครที่มีพฤติกรรมการทานอาหารก่อนนอน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทานอาหารประเภทไหนดีเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร

วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงก่อนนอน เพื่อป้องกันไม่ให้สุขภาพของเราพังและได้รับผลกระทบ ไปดูกันเลย

  • อาหารรสชาติจัด

เชื่อว่าหลายๆคนนั้นชื่นชอบการรับประทานอาหารที่มีรสชาติค่อนข้างจัดหรือเผ็ดกันมากๆ แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่เราควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดก่อนที่เราจะเข้านอน เพราะหากเรารับประทานเข้าไปแล้วอาจจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนเกินไป จนอาจทำให้เรามีกรดในกระเพาะอาหารหรือแสบร้อนในกระเพาะอาหารได้นั่นเอง ใครที่ไม่อยากสุขภาพพัง ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติจัดอย่างเด็ดขาด

  • มะเขือเทศ

ถึงแม้ว่ามะเขือเทศจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายของเราเยอะมากๆ แต่รู้หรือไม่ว่าในมะเขือเทศนั้นจะอุดมไปด้วยกรดที่ค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าหากเราทานก่อนนอนอาจจะทำให้เราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นกรดไหลย้อน หรือโรคกระเพาะอาหารได้ ฉะนั้นเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการที่เราจะมีสุขภาพที่พัง หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

  • ผลไม้รสเปรี้ยว

แน่นอนว่าผลไม้เป็น หนึ่ง ในอาหารที่หลายๆคนชอบทานก่อนนอนเพราะอาจจะมองว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายแถมยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย แต่รู้หรือไม่ว่า ผลไม้รสเปรี้ยวถือเป็น หนึ่ง ในอาหารที่เราควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดก่อนนอน เนื่องจากผลไม้รสเปรี้ยวเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ในการขับน้ำ หากเราทานก่อนนอนอาจจะทำให้เราปวดปัสสาวะกลางดึกจนทำให้เรามีอาการนอนหลับหลับตื่นตื่นได้นั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

สารทดแทนน้ำตาล Erythritol อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการแข็งตัวของเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง

การศึกษาเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าการบริโภคอีริทรีทอลซึ่งพบในอาหารที่เป็นมิตรกับคีโตรวมถึงสารให้ความหวาน Truvia สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้อย่างมาก Erythritol

ซึ่งเป็นสารทดแทนน้ำตาลที่ได้รับความนิยมใน Truvia และใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำตาลและเป็นมิตรกับคีโตหลายชนิด อาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ตามผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีระดับอีริทริทอลในเลือดสูงที่สุดมีโอกาสเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือเสียชีวิตเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่มีระดับต่ำที่สุด

ผลลัพธ์เหล่านี้น่าทึ่งมาก สิ่งนี้ทำให้ความเสี่ยงเท่ากันกับปัจจัยเสี่ยงหัวใจที่แข็งแกร่งที่สุด เช่น การเป็นโรคเบาหวาน มันแข็งแกร่งกว่าความเสี่ยงของคอเลสเตอรอลสูง

หรือความดันโลหิตด้วยซ้ำ” ผู้เขียนอาวุโส Stanley Hazen, MD, PhD, ประธานแผนกวิทยาศาสตร์หัวใจและหลอดเลือดและการเผาผลาญของ Lerner Research Institute และหัวหน้าส่วนร่วมของโรคหัวใจป้องกันที่ Cleveland Clinic กล่าว ในโอไฮโอ Mandeep Kainth, MD กล่าวว่า “นี่คือการศึกษาที่สำคัญอย่างเหลือเชื่อ

สารทดแทนน้ำตาล Erythritol ซึ่งแสดงหลักฐานสำคัญว่าการใช้สารให้ความหวานเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง erythritol ที่ใช้แทนน้ำตาลนั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ

และหลอดเลือด เช่น หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และการเสียชีวิตได้อย่างไร” Mandeep Kainth, MD กล่าว รองผู้อำนวยการฝ่ายป้องกันโรคหัวใจที่ Stony Brook Heart Institute ใน Stony Brook, New York ดร. เคนธ์ไม่ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยนี้

การมี Erythritol ในระดับสูงตามธรรมชาติอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเป็นสองเท่า นักวิจัยไม่ได้ตั้งใจที่จะศึกษาอีริทริทอลโดยเฉพาะ ดร. เฮเซนกล่าว ในขณะที่ศึกษาสารประกอบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเลือดเพื่อดูว่ามีอาการหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองในอนาคตหรือไม่ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าผู้ที่มีระดับอีรีทรีทอลสูงตามธรรมชาติ

ซึ่งร่างกายของเราผลิตขึ้นโดยธรรมชาติเป็นผลพลอยได้จากการเผาผลาญอาหาร ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงสูงกว่า จากนั้นนักวิจัยจึงหันมาสนใจอีริทริทอลและวัดผลจากผู้เข้าร่วมเกือบ 3,000 คนในสหรัฐอเมริกาและยุโรป พวกเขาพบว่าผู้ที่มีระดับ erythritol สูงสุด (สูงสุด 25 เปอร์เซ็นต์) มีความเสี่ยงเป็นสองเท่าของโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือเสียชีวิต

เมื่อเทียบกับผู้ที่มีระดับสารประกอบต่ำที่สุด นักวิจัยยังได้ตรวจสอบผลกระทบของการเติมอีริทริทอลลงในเลือดครบส่วนหรือเกล็ดเลือดที่แยกได้ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของเซลล์ที่เกาะกันเป็นก้อนเพื่อหยุดเลือดและช่วยสร้างลิ่มเลือด พวกเขาพบว่าอีริทริทอลทำให้เกล็ดเลือดกระตุ้นและจับตัวเป็นก้อนได้ง่ายขึ้น

ลิ่มเลือดสามารถหลุดออกและเดินทางไปยังหัวใจ นำไปสู่อาการหัวใจวาย หรือสมอง นำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง

การบริโภค Erythritol ในอาหารแปรรูปสามารถเพิ่มระดับพลาสมาของสารประกอบได้ถึง 1,000 เปอร์เซ็นต์ Erythritol ทำโดยการหมักข้าวโพด สามารถขายเพียงอย่างเดียวหรือรวมเป็นส่วนผสมในสารให้ความหวานจากหญ้าหวานและผลไม้พระ เมื่อใช้แทนน้ำตาลจะมีความหวานประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของน้ำตาล

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

เปลือกตาที่สาม หรือเยื่อบุตา

 

เปลือกตาที่สาม หรือเยื่อบุตา แน่นอนว่าสิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น  เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาบนโลกมันเกี่ยวข้องกับร่างกายของมนุษย์อย่างเรา  ในร่างกายของมนุษย์นั้นมีความลึกลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก    

มนุษย์ได้มีการศึกษาเรื่องราวต่างๆมากมาย  ที่เกี่ยวข้องกับระบบในร่างกาย  ตั้งแต่หัวจรดเท้าตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้

  ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์  ทางวิทยาศาสตร์จะพัฒนาก้าวหน้าไปไกลมากมายแค่ไหนแล้ว  มนุษย์เองก็ยังไม่เคยหยุดที่จะศึกษาเรื่องราว  ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายของมนุษย์เลยอย่างไรก็ตามสิ่งที่เราจะพูดถึงในวันนี้  จะน่าสนใจหรือเปล่าเราไปทำความรู้จักมันพร้อมกัน

เรื่องราวที่น่าสนใจที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น   จะไม่พูดถึงก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก 

ต่อการศึกษามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์อย่างเราด้วย  ซึ่งในวันนี้นั้นมันคืออะไรเราไปทำความรู้จักมันพร้อมกันเลยดีกว่ากับสิ่งที่เรียกเปลือกตาที่ 3 หรือเยื่อบุตา   อวัยวะในส่วนนี้หลายคนคงไม่เคยสังเกตว่า   ร่างกายเราไม่รู้ว่ามันมีเพื่ออะไร  ซึ่งมันจะอยู่บนหัวตาข้างท่อน้ำตานั้นเอง

  ถึงแม้ว่าสัตว์บางชนิด เช่น สุนัขหรือสัตว์หรือสัตว์จำพวกปลาด้วย  มันจะมีดวงตาที่สามไว้ทำหน้าที่ได้หลากหลายมากเลย   เพราะว่าในส่วนของมนุษย์อวัยวะชิ้นนี้ไม่มีความจำเป็น  แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเปลือกตาที่ 3 ไม่มีประโยชน์ในเวลาที่เราขยับ     ลูกตา  เปลือกตาที่ 3 จะมีการระบายน้ำออกมาอย่างเหมาะสมนั้นเอง และทำหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดดวงตา

  จากฝุ่นละอองและหลายคนให้เหตุผลว่า  เนื้อเยื้อดวงตาที่ 3 นี่แหละ มันได้หลงเหลือมาจากการพัฒนาการของมนุษย์  ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และแน่นอนในส่วนมุมมองของสัตว์  ก็ถือว่าสำคัญมากโดยเฉพาะสัตว์ที่มีลูกตาโปนๆ ตาเหลือก ตาโต จำพวกจระเข้และสัตว์น้ำ ดวงตาที่ 3 จะช่วยป้องกันเวลามาอยู่ในน้ำได้นั่นเอง

  ส่วนคนดวงตาที่ 3 ไม่จำเป็น แต่เราเองก็ไม่อยากเอาออกนะ  เอาไว้เหมือนเดิมน่ะดีแล้ว แน่นอนว่ามีอวัยวะต่างๆในร่างกายของเรา  หรือว่าชิ้นส่วนอีกมากมาย  ที่มันเกิดขึ้นมาในร่างกายของเรา   แต่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับเรา  แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกัน ในบางครั้งบางคน      

ก็อยากที่จะตัดมันออกไป  แต่ในบางครั้งมันก็มีประโยชน์อยู่เล็กน้อยเท่านั้น   อย่างเช่นเรื่องราวที่เราได้กล่าวไปข้างต้น  อย่างไรก็ตามหากคุณสนใจอยากที่จะทำความรู้จักเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังราคาถูก

การระบาดครั้งใหญ่ของไข้หวัดใหญ่

มีหลายสิ่งหลายอย่างต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีตปัจจุบันหรือแม้แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

  มีความน่าสนใจต่อการศึกษาทั้งสิ้น  ซึ่งสิ่งที่เรากำลังพูดถึงในวันนี้นั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก และบทสรุปของโรคร้ายดังกล่าวจะมีจุดจบยังไง 

ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการระบาดครั้งใหญ่ของไข้หวัดใหญ่นั้นเอง  แน่นอนว่าไข้หวัดใหญ่ก็ยังคงมีให้เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ และคุณก็สามารถที่จะเป็นได้ตามฤดูกาลต่างๆ

สิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้  เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการระบาดครั้งใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่ถือว่าเป็นโรคระบาด 

ที่มีความรุนแรงไม่แพ้จากไวรัสโคโรนาเลยแม้แต่น้อยซึ่งในวันนี้เรื่องดังกล่าวจะน่าสนใจแค่ไหนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับมันพร้อมกัน  ไข้หวัดใหญ่มีการระบาดครั้งใหญ่อยู่หลายครั้งแต่ระหว่างช่วงทศวรรษที่ 1830

การระบาดครั้งใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ และยังมีการบันทึกของการระบาดครั้งใหญ่ที่น่าเชื่อถือที่เกิดขึ้นตั้งแต่คริสต์ศักราช 1981 มันเริ่มต้นในประเทศรัสเซียและกระจายไปในทวีปยุโรปผ่านทวีปแอฟริกา  การระบาดเป็นไปตลอดระยะเวลาช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 ปี 1830 ถึง 1833 มีการระบาดในวงกว้างไปทั่วโลก ซึ่งมีผู้ติดเชื้อถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั่วโลก จนกระทั่งในปี 1918 เกิดการระบาดที่รุนแรงที่สุดของไข้หวัดใหญ่ 

ซึ่งมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกประมาณกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก โรคระบาดในครั้งนี้   ถูกเรียกว่าไข้หวัดใหญ่สเปน เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกของไข้หวัดใหญ่สเปน นั้นก็คือเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ภายหลังเกิดการในโลกนี้ในปี 1920 ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 ก็ค่อยๆหมดไปจะได้กลายเป็นสายพันธุ์ที่ไม่อันตราย แต่ก็ยังคงแพร่กระจายเป็นประจำทุกปี

แต่ก็ยังมีการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่อื่นๆตามมาจากในปี 1965 ถึง 1967 เกิดการระบาดครั้งใหญ่ของไข้หวัดใหญ่เอเชียมีผู้ชีวิต 2 ล้านคนทั่วโลก และไข้หวัดใหญ่ฮ่องกงในปี 1968 ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 1 ล้านคนทั่วโลก ความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่เริ่มลดลงในปี 2009 เกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่  ที่มาจากหมูทำให้มีผู้ติดเชื้อ  ราว 21 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรโลก

  องค์การอนามัยโลกได้กล่าวว่าไข้หวัดใหญ่ มีความคล้ายคลึงกับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก  แต่ไข้หวัดใหญ่ยังคงอยู่กับเราตามฤดูกาลและยังคงเสี่ยงที่จะเผชิญกับการระบาดใหญ่ไปทั่วโลกอีกครั้ง ที่เกิดจากเวลาเรานั้นการแยกตัวและการกักกันโรคช่วยชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสลงได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังราคาถูก

3 เครื่องดื่มที่ควรดื่มก่อนนอนหากอยากผอม

เชื่อว่ายิ่งใกล้เวลาเข้านอนยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมีอาการหิวเป็นอย่างแน่นอน และเป็นต้นเหตุที่ทำให้สาวสาวส่วนใหญ่นั้นมักที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับความอ้วน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่ทำให้คนส่วนใหญ่นั้นหนักใจกันเป็นอย่างมากและมักที่จะมองหาวิธีที่จะช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายเพื่อให้รูปร่างตัวเองดูดีอยู่เสมอ

เครื่องดื่มที่ควรดื่มก่อนนอน แต่รู้หรือไม่ว่าเนื่องจากพฤติกรรมการกินก่อนนอนนั้นอาจส่งผลกระทบ ที่ทำให้เรามีความอ้วนได้

เนื่องจากว่าอาจทำให้ไขมันนั้นสะสมในร่างกายมากเกินไป แต่ในสมัยปัจจุบันนี้เราสามารถเลือกรับประทานอาหารก่อนนอนได้ โดยที่ไม่ทำให้เรารู้สึกผิดอย่างแน่นอน รวมไปถึงการเลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีส่วนช่วยในการลดพุงได้ เพราะในสมัยนี้มีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากมายให้เราได้เลือกทาน

ซึ่งก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับความอ้วน มีพุง ร่างกายไม่สดชื่น รวมไปถึงมีอาการนอนไม่ค่อยหลับอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำเครื่องดื่มที่ควรดื่มก่อนเข้านอน รับรองได้เลยว่าหากดื่มเป็นประจำนั้นนอกจากจะส่งผลดีต่อร่างกายของเราแล้วยังช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นมากขึ้นช่วยให้เราหลับสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จะมีเครื่องดื่มชนิดไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • น้ำองุ่นแท้

หลายคนมองว่าน้ำองุ่นเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยน้ำตาลที่สูง ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นมักที่จะไม่นิยมดื่ม แต่รู้หรือไม่ว่า ในน้ำองุ่นนั้นโดยเฉพาะองุ่นแดง จะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นหรือเร่งระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี  เครื่องช่วยฟังราคาถูก      อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการเบิร์นไขมันส่วนเกินในร่างกายของเราในระหว่างที่เรากำลังหลับได้อีกด้วย ฉะนั้นหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการลดไขมันในร่างกาย ขอบอก หากดื่มเครื่องดื่มองุ่นก่อนนอนเป็นประจำนอกจากจะส่งผลดีต่อร่างกายของเราแล้วยังช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  • น้ำขิง

แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่คนส่วนใหญ่นั้นเลือกดื่ม เพราะเนื่องจากว่านับขิงนั้นมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดี เพราะน้ำขิงจะมีฤทธิ์ที่ร้อนที่มีส่วนช่วยในการ เบิร์นไขมันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ดีๆต่อร่างกายอีกหลายด้านมากๆ ซึ่งหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเบิร์นไขมันในร่างกาย การที่เราดื่มน้ำขิงก่อนนอนขอบอกเลยว่านอกจากจะส่งผลดีต่อร่างกาย ยังมีส่วนช่วยในการเร่งอัตราการเผาผลาญไขมันในร่างกายในระหว่างที่เราหลับได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  • ชาคาโมมายด์

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เรานั้นไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เนื่องจากคาโมมายด์นั้นจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มระดับของไกลซีนได้ โดยจะมีส่วนช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยให้เรานอนหลับสนิทได้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ การดื่มชาคาโมมายด์ก่อนการเข้านอนนั้นจะช่วยให้เราอิ่มท้องและไม่ทำให้เรารู้สึกหิวในระหว่างที่เรานอนหลับอีกด้วย

3 ประโยชน์ทางจิตใจที่เราจะได้รับจากการออกำลังกาย

ปัจจุบันนี้การมีสภาพจิตใจที่ดี ถือเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนนั้นควรให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะการมีสุขภาพจิตที่ดีจะส่งผลต่อร่างกายของเรา ยิ่งถ้าเราเป็นคนที่มีสุขภาพจิตใจไม่ค่อยดี ก็จะยิ่งทำให้สุขภาพร่างกายของเรานั้นแย่ลงไปด้วย

การออกำลังกาย ดังนั้น การบริหารจิตใจของเราให้แข็งแรอยู่เสมอนั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ซึ่งในสมัยปัจจุบันนี้การบริหารสุขภาพจิตใจให้แข็งแรงนั้น

สามารถทำได้ด้วยกันหลายวิธีมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการออกกำลังกาย เพราะนอกจากจะมีส่วนช่วยในการบริหารสุขภาพจิตใจของเราให้ดี และแข็งแรงได้ ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการมีสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่เราได้อีกด้วย

ดังนั้น สำหรับใครที่ช่วงนี้มีเรื่องต้องให้เครียด และอยากที่จะขจัดความเครียดออกไป เพื่อทำให้สุขภาพจิตใจของเรานั้นดีมากยิ่งขึ้น วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าแท้ที่จริงแล้วนั้น การออกกำลังกายจะมีประโยชน์ที่สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตใจของเราได้อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย 

  • การออกกำลังกายช่วยลดความเครียดได้

เนื่องจากว่าการออกกำลังกายนั้น จะยิ่งช่วยให้ร่างกายของรู้สึกผ่อนคลาย จึงมีส่วนช่วยในการลดความเครียดได้เป็นอย่างดี เพราะปกติแล้วความเครียดถือเป็นปัญหาที่ทำให้ร่างกายของเรานั้นมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้น การที่เราหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะยิ่งทำให้ร่างกายของเรารู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น จนส่งผลดีไปยังสุขภาพจิตใจของเรานั่นเอง 

  • การออกกำลังกายช่วยทำให้คุณหลับได้ดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับความเครียด หลับยาก หรือมีอาการหลับ ๆ ตื่น ๆ เนื่องจากความเครียดมาก ๆ รู้หรือไม่ว่าการที่เราหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้การนอนหลับของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นทำงานของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายของเรานั้นหลับได้เร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการบริหารสุขภาพจิตของเราให้ดีได้อีกด้วย 

  • การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยทางจิตได้

เพราะการออกกำลังกายจะให้ร่างกายของเรามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงได้อีกด้วย ดังนั้น ยิ่งเราออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะมีส่วนช่วยในการลดความกังวลใจของเราได้ ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจได้ ช่วยให้ร่างกายของเรานั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้นอีกด้วย รับรองได้เลยว่า ยิ่งเราหมั่นออกกำลังกายก็จะยิ่งชวยในการลดโอกาสเสี่ยงต่อการป่วยทางจิตได้เป็นอย่างดี

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟังราคาถูก