โรคเอดส์

 

โรคเอดส์เรียกอีกชื่อว่าโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง คือการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เชื้อเอสไอวีจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันทำให้เกิดอาการร่างกายอ่อนแอลงโรคเอดส์เป็นโรคร้ายแรงที่มีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนสมัยใหม่เปลี่ยนไปอีกทั้งที่วงการแพทย์ยังไม่มียารักษาให้หายหลายคนหลายส่วนในสังคมทำได้แค่การ ให้ความรู้ความเข้าใจให้เยาวชนที่ถูกต้องในการป้องกันและหลีกเลี่ยงตัวเองให้ห่างไกลจากโรคเอดส์

อาการของโรคเอดส์ เมื่อติดเชื้อโรคเอดส์สอง-สามสัปดาห์แรกหลังจากรับเชื้อเอดส์อาการไข้ น้ำมูกไหลติดต่อกันอยู่ประมาณสองสัปดาห์แล้วจะหายไปผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่สนใจอาการคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาแต่ถ้าไปตรวจจะพบว่าเลือดหลังจากรับเชื้อได้สามเดือนซึ่งนั่นหมายถึงว่าคุณติดเชื้อเอดส์แล้วและสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่นได้บางคนจะมีเม็ดเล็กๆแข็งขึ้นบนผิว

ผิวหนังจับจะไม่เจ็บไม่แดงเกิดต้อมน้ำเหลืองโดยเชื้อไวรัสทำให้ระดับเม็ดเลือดขาวลดลงอย่างช้าๆช่วงนี้จะเป็นลักษณะไข้เรื้อรังน้ำหนักลดท้องเสียเรื้อรังและเหงื่อออกมากเม็ดเลือดขาวเริ่มถูกทำลายไปจนเหลือน้อยร่างกายถูกทำลายลงติดเชื้อโรคอื่นๆได้ง่ายโดยมากผู้ป่วยโรคเอดส์เรื้อรังจะตายภายในสองถึงสี่ปีจากเชื้อโรคที่รุมเร้า จนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นโรคเอดส์คือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง ทั้งรักร่วมเพศหรือต่างเพศได้เช่นกันใช้เข็มฉีดยาร่วมกันเข็มฉีดยาไม่สะอาด

ส่วนใหญ่จะเจอในกลุ่มใช้ยาสารเสพติดสามสัมผัสเชื้อโดยตรงจากบาดแผลหรือน้ำเหลืองจากผู้ป่วยจากของมีคม สำหรับเชื้อเอดส์เมื่ออยู่นอกร่างกายคนสามารถมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเชื้อจะหายไปในไม่กี่ชั่วโมงหากถูกความร้อนหรือโดนกรด-ด่างเชื้อจะตายเร็วขึ้นแต่ถ้าอยู่ในสภาพของอุณหภูมิพอเหมาะเชื้อจะอยู่ได้ทั้งวันในสภาพของเหลว

การรักษาให้ยาต้านไวรัสเพื่อจำนวนเชื้อเอสไอวีจะช่วยยืดอายุผู้ป่วยที่มีสุขภาพดีออกไป คุณหมอจะทำควบคู่กันไปกับการรักษาโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นปัจจุบัน ยังไม่มียาทำลายไวรัสเอดส์ได้มีแต่ ยายับยั้งไวรัสเอดส์เท่านั้นแม้จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแต่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมากและมีราคาแพงมากต้องกินทุกวันตลอดชีวิตระหว่างนี้ผู้ป่วยต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองด้วยรักสาสุขภาพจิตของผู้ป่วยส่วนมากจะวิตกจริตวิตกกังวลและคนข้างเคียงไม่ยอมรับการป้องกันและดูแลเบื้องต้น

คนที่มีคู่รักแล้วควรรักเดียวใจเดียวอยากมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นหามีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันด้วยถุงยางอนามัยก่อนแต่งงานหรือมีลูกควรพาการไปตรวจเลือดกับคุณหมอเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยงดใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นถ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมต้องฆ่าเชื้อโรคก่อนกระตุ้นสังคมไม่ตื่นตัวสอนวิธีป้องกันโรคเอดส์ให้ถูกต้องทำอย่างไรไม่ติดเอดส์แน่นอนห้ามหายใจไอและจามใส่กันไม่ว่ายน้ำในสหรือเล่นกีฬาร่วมกันไม่สัมผัสและโอบกอดไม่ใช้ภาชนะหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกันไม่ใช้โทรศัพท์ร่วมกันไม่ถูกยุ่งหรือแมลงกัดไม่ดื่มน้ำร่วมกันไม่ใช้ห้องน้ำร่วมกันแต่ฟังดูแล้วก็ค่อนข้างจะยากครับอย่าทำหน้าอย่างนี้เพราะว่าคนเราหลายอย่างไม่ต้องทำร่วมกัน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย. เครื่องช่วยฟังฟรี

โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคเอดส์
มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Acquired Immune Deficiency Syndrome มีชื่อโดยย่อว่า AIDS = เอดส์

โรคเอดส์ คือ โรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่องจนไม่สามารถต่อสู้เชื้อโรค หรือสิ่งแปลก

ปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ง่ายกว่าคนปกติ

ขณะนี้โรคเอดส์กำลังระบาดในทวีปอเมริกา ยุโรป อาฟริกา แคนนาดา โรคนี้ได้ติดต่อมาถึงบาง

ประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย

โรคเอดส์เกิดจากอะไร

โรคเอดส์เกิดจากเชื้อไวรัส มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Human Immunodeficiency Virus (HIV)

โรคเอดส์เป็นกับใครบ้าง

โรคเอดส์ส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทย มักเกิดในพวกรักร่วมเพศ ชายที่เปลี่ยนคู่บ่อย ๆ ปัจจุบันพบ

ว่าเกิดในพวกรักต่างเพศได้ โดยเฉพาะในเพศชายที่ชอบเที่ยวโสเภณี

โรคเอดส์ติดต่อกันได้อย่างไร

โรคเอดส์ติดต่อกันได้หลายทาง แต่ที่สำคัญ และพบบ่อย ได้แก่

  • การร่วมเพศกับผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือมีเชื้อโรคเอดส์
  • การรับถ่ายเลือดจากผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือมีเชื้อโรคเอดส์
  • การใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด หรือร่วมกับผู้ป่วยโรคเอดส์
  • จากแม่ที่ตั้งครรภ์ป่วยเป็นโรคเอดส์ ติดต่อไปถึงลูกที่อยู่ในครรภ์
  • โรค เอดส์ไม่ติดต่อโดยการเล่นด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน เรียนร่วมกัน ไปเที่ยวด้วยกัน หรือ อยู่ในครัวเรือนเดียวกัน หากไม่มีความเกี่ยวข้องทางเพศ

อาการของโรค

หลัง จากได้รับเชื้อโรคเอดส์เข้าไปในร่างกายแล้ว จะมีระยะฟักตัวประมาณ 2-3 เดือน จึงตรวจพบ

เลือดบวกต่อโรคเอดส์ ผู้ที่ติดเชื้อไม่จำเป็นต้องมีอาการทุกคน ระยะฟักตัวก่อนมีอาการแตกต่างกัน

มากจาก 2-3 เดือน ถึง 5-6 ปี ประมาณกันว่า 25-30% ของผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการภายใน 5 ปี อีก

70% จะไม่มีอาการ แต่จะเป็นพาหะของโรค และแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

อาการที่พบในผู้ป่วยโรคเอดส์

  • อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • มีไข้นานเป็นเดือน ๆ
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • ท้องเดินเรื้อรังจากโรคพยาธิ
  • มีแผลในปาก และตามผิวหนัง
  • มีอาการทางสมอง เช่น ชัก อัมพาต
  • โรคติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะปอดบวมจากพยาธิ เชื้อรา วัณโรค ฯลฯ
  • มะเร็งของต่อมน้ำเหลือง เม็ดเลือด และสมอง ฯลฯ

การวินิจฉัย

โรค เอดส์วินิจฉัยได้จากอาการข้างต้น ประกอบกับการตรวจเลือดบวกต่อโรคเอดส์ วิธีการตรวจเลือด

มี 2 วิธี วิธีแรกเรียกว่า Elisa ถ้าพบว่าเลือดบวก จะตรวจยืนยันโดยวิธี Western Blot การตรวจเลือด

นี้ไม่จำเป็นต้องทำในคนทั่วไป แต่ควรตรวจในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคนี้สูง ซึ่งได้แก่พวก

รักร่วมเพศ ผู้หญิง และชายบริการ ผู้ที่ได้รับการถ่ายเลือดบ่อย ๆ ผู้ติดยาทางเส้นเลือด

การรักษา

ปัจจุบัน ยังไม่มียารักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ การรักษาจึงเป็นการรักษาโรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่

แทรกซ้อนซึ่งไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะผู้ป่วยขาดภูมิต้านทาน และมักเสียชีวิตเนื่องจากโรคติดเชื้อ

การป้องกัน

ไม่ สำส่อนทางเพศ ควรสมถุงยางอนามัยเวลาร่วมเพศกับคนแปลกหน้า พยายามอย่าเปลี่ยนคู่
นอนในหมู่รักร่วมเพศ อย่าร่วมเพศกับผู้ป่วย หรือสงสัยว่าเป็นโรคเอดส์

ก่อนรับการถ่ายเลือด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บริจาคเลือดไม่มีเชื้อโรคเอดส์

อย่าใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด หรือร่วมกับผู้ติดยาเสพติด