อาการท้องผูก เกิดจากสาเหตุอะไร และมีวิธีการแก้อย่างไร

 อาการท้องผูก (constipation) สามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการได้แก่

1.อาหารที่มีใยอาหารน้อย: การบริโภคอาหารที่มีใยอาหารน้อยอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก เนื่องจากใยอาหารช่วยในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้และช่วยในกระบวนการขับถ่าย

2.น้ำไม่เพียงพอ: การบริโภคน้ำไม่เพียงพออาจทำให้มีของเสียที่เข้าสู่ลำไส้แห้งขึ้น และทำให้เกิดอาการท้องผูก

3.ขาดการออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ การขาดการออกกำลังกายอาจเป็นสาเหตุของอาการท้องผูก

4.การใช้ยา: บางครั้งยาที่ใช้ในการรักษาโรคอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการท้องผูก

5.ภาวะปัญหาสุขภาพ: มีภาวะเฉพาะเจาะจง เช่น ภาวะทางด้านลำไส้ เป็นต้น

6.สภาพจิตใจ: สภาพจิตใจที่เครียดหรือวิตกกังวลอาจมีผลต่อระบบลำไส้และทำให้เกิดอาการท้องผูกได้

หากมีอาการท้องผูกเกิดขึ้นเป็นเวลานานหรือมีอาการร่วมอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อประเมินและรักษาอาการให้เหมาะสม

วิธีการแก้อาการท้องผูก มีวิธีการแก้ไขอาการท้องผูกได้หลายวิธี ดังนี้

1.เพิ่มใยอาหารในอาหาร: การบริโภคอาหารที่มีใยอาหารมาก เช่น ผักผลไม้สด ธัญพืช เช่น ข้าวโพด ข้าวกล้อง และธัญพืชอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณเซลลูโลสในลำไส้และช่วยกระตุ้นกระบวนการขับถ่าย

2.ดื่มน้ำมากขึ้น: การดื่มน้ำมากมายช่วยละลายของเสียในลำไส้และช่วยลดความแห้งที่อาจเป็นสาเหตุของอาการท้องผูก

3.ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้กระบวนการขับถ่ายเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

4.หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก: เช่น อาหารหมัก-หมัก อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีน้ำตาลมาก เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

5.รับประทานยาแก้ท้องผูก: ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้ยาแก้ท้องผูกเพื่อช่วยลดอาการ แต่ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และไม่ควรใช้เป็นเวลานานเกินไป

6.ลดสตรีส: สตรีสมีส่วนเสริมสูงอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก ควรลดการใช้งานสตรีสหรือเลือกสตรีสที่มีส่วนผสมของใยอาหาร

หากอาการท้องผูกยังคงเกิดขึ้นหลังจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพและการรักษาเบื้องต้น เช่น การบริโภคอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกาย ควรพบแพทย์เพื่อประเมินและรักษาอาการให้เหมาะสมอีกครั้ง

 

สนับสนุนเนื้อหหาโดย    คาสิโนเวียดนาม

โรคไข้เหลือง (Yellow Fever) คืออะไร

โรคไข้เหลือง (Yellow Fever) เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสไข้เหลือง (Yellow fever virus) ซึ่งถือเป็นโรคที่ถูกแพร่กระจายโดยยุ่งเหยื่อที่ถูกพยาธิ (vector-borne disease) โดยที่ยุ่งเหยื่อหลักคือยุ่งเหยื่อแมลงกินเลือด Aedes aegypti และ Aedes albopictus ซึ่งเป็นแมลงกลุ่มหนึ่งที่ทำให้โรคนี้แพร่กระจายได้มากที่สุด

 อาการของโรคไข้เหลืองสามารถแบ่งได้เป็นสองระยะหลัก คือระยะไข้เหลืองเลือดสด (acute phase) และระยะฟื้นตัว (recovery phase) ในระยะแรกของโรคจะมีอาการเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา รวมถึงมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้

หากวัยรุ่นมักจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจมีไข้สูงขึ้นไปถึงระดับต่ำๆ แต่ในบางรายก็อาจเป็นมากจนต้องเข้าโรงพยาบาล ในระยะฟื้นตัว ความประทับใจในตาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และอาจมีอาการต่าง ๆ เช่น อ่อนเพลีย อ่อนแรง ท้องเสีย หรือตัวเขียวเข้ม

การป้องกันโรคไข้เหลืองทำได้โดยการฉีดวัคซีน และป้องกันยุ่งเหยื่อด้วยการใช้ยากำจัดยุ่งเหยื่อแมลง และการกำจัดที่อยู่อาศัยของแมลง เช่น การทำความสะอาดบริเวณที่มีน้ำขัง เพื่อลดการสร้างภาชนะที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของยุ่งเหยื่อแมลงกินเลือด การใส่บาร์เหล็กลงในภาชนะน้ำ เป็นต้น

 

แนวทางการป้องกันโรคไข้เหลือง (Yellow Fever)

การป้องกันโรคไข้เหลืองมีหลายแง่ที่สำคัญ เราสามารถรวมแนวทางการป้องกันได้ดังนี้

1.การฉีดวัคซีน: วัคซีนไข้เหลืองเป็นวิธีการป้องกันหลักที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคนี้ ควรฉีดวัคซีนก่อนเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

2.การป้องกันยุ่งเหยื่อ: การใช้ยากำจัดยุ่งเหยื่อแมลง (insect repellent) หรือการสวมเสื้อผ้าที่ครอบคลุมผิวพร้อมทั้งใช้ที่ติดยุ่งเหยื่อแมลง (insecticide-treated clothing) เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของยุ่งเหยื่อ จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกยุ่งเหยื่อกัด

3.การกำจัดที่อยู่อาศัยของแมลง: การลดการสร้างภาชนะที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของยุ่งเหยื่อแมลงกินเลือด เช่น การทำความสะอาดบริเวณที่มีน้ำขัง เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของลำตัวยุ่งเหยื่อแมลง

4.การป้องกันการแพร่กระจาย: การป้องกันการแพร่กระจายของโรคโดยการควบคุมและระบาดในชุมชน และการควบคุมยุ่งเหยื่อเมื่อมีการระบาด

5.การเลือกสถานที่อยู่: การเลือกสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่ำในการติดเชื้อ เช่น การเลือกที่พักและกิจกรรมท่องเที่ยวที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค

6.การตรวจสอบสุขภาพ: การตรวจสอบสุขภาพก่อนการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทนต่อโรคได้ดีพอ

แนวทางการรักษาโรคไข้เหลือง (Yellow Fever

การรักษาโรคไข้เหลืองมีอยู่ในหลายด้าน แต่ไม่มียาที่พิสูจน์แน่ชัดว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคไข้เหลืองโดยตรงอย่างเห็นผลจากการทดลองควบคุมที่เป็นมาตรฐาน (randomized controlled trials) ดังนั้น การรักษาโรคไข้เหลืองมักเน้นการบรรเทาอาการและการรักษาสภาพทางคลินิกในระหว่างรักษาเชื้อไข้เหลือง

โดยการให้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อลดไข้และอาการปวด นอกจากนี้ยังสามารถให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลระบบอื่น ๆ เช่น การให้น้ำเปล่าเพื่อป้องกันการขาดน้ำและการให้อาหารที่เหมาะสม ในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมาก อาจต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โดยอาจมีการให้เหลืองเข้ม (Yellow Fever Immune Globulin) ที่มีภูมิต้านทานและความสามารถในการต่อสู้กับไวรัสไข้เหลือง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ทัวร์คาสิโนเวียดนาม

ทำความสะอาดตู้เย็นอย่างถูกวิธี เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

น่าไว้วางใจว่า ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนจะทุกบ้าน ควรมีตู้แช่เย็น และก็หลาย ๆ บ้านเป็นตู้สารพัดประโยชน์ เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไรก็นิยมเก็บเข้าตู้แช่เย็นหมด ทั้งยังอาหาร กับข้าว ขนม น้ำอัดลม นม ยา น้ำหอม ไปจนกระทั่งเครื่องแต่งหน้า ยิ่งบ้านที่มีเด็กตัวเล็ก ๆ

สักครู่เปิด ประเดี๋ยวปิด วิ่งเล่นมาอ่อนเพลีย ๆ ไหนจะคราบเปื้อนเหงื่อ มือไม้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเลอะเทอะ ก็เปิดตู้แช่เย็นหาของหวานหาน้ำดื่มกันโดยไม่ล้างมือให้สะอาดก่อน

ยิ่งสะสมไปนานวันคราบเปื้อนเลอะเทอะ ซึ่งมีความสกปรกกลุ่มนี้บนตู้แช่เย็น ก็จะยิ่งติดแน่นฝังลึก ซึ่งแน่ ๆ ว่า คราบเปื้อนเลอะเทอะซึ่งมีความสกปรกดังกล่าวข้างต้นนี้ เป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อโรคได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรจะหมั่นเช็ดถูชำระล้างในส่วนข้างในใช้น้ำยา

สำหรับล้างจานถูตามชั้นต่าง ๆ แบบเร็วๆแล้วลงน้ำยาฉาบ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือบางทีอาจจะใช้ครีมขี้ผึ้งขัดสีรถยนต์ก็ได้ ทาเป็นบางโอกาส จะช่วยทำให้ตู้แช่เย็นดูสะอาดระยิบระยับได้

 

ควรจะถอดปลั๊กไฟฟ้าตู้แช่เย็นออกเพื่อชำระล้างข้างหลังของตู้แช่เย็นทุกครึ่งปีหรือหกเดือน ซึ่งข้างหลังตู้แช่เย็นจะมีทั้งยังขดลวดแล้วก็แผงระบายความร้อน แนะนำให้ทำความสะอาดโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นชำระล้างดังนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งเป็นการช่วยลดการใช้พลังงานกระแสไฟฟ้าอีกด้วย

 

การล้างด้านในตู้แช่เย็น หากส่วนประกอบไหนถอดได้ ควรจะถอดออกมาล้างน้ำ ดังเช่นว่า ถาดหลุมใส่ไข่ ชั้นวางต่าง ๆ ช่องเก็บผักผลไม้ เพื่อคราบเปื้อนเลอะเทอะ ซึ่งมีความสกปรกออกได้อย่างไม่ยากเย็นแล้วก็สบายสำหรับในการล้าง เมื่อล้างเสร็จแล้วควรจะเช็ดถูให้แห้งก่อนนำกลับไปใส่ที่เดิม รอบ ๆ ของยางรองรอบประตู ถาดรองน้ำ ถาดใส่วางไข่ก็จำเป็นจะถูชำระล้างด้วย ช่องสำหรับแช่แข็ง ก็ควรจะได้รับแนวทางการทำความสะอาดด้วยเหมือนกัน

 

สิ่งที่ห้ามทำเลย และไม่จำเป็นเป็นอย่าทำกับตู้แช่เย็นก็คือ นำของมีคมไปขูดหรือสกัดน้ำแข็งในช่องแข็ง ไม่สมควรนำของร้อน ๆ เข้าไปแช่ลงในตู้แช่เย็น ก่อนชำระล้างตู้แช่เย็นทุกคราว ควรจะถอดปลั๊กไฟตู้แช่เย็นออกก่อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของตัวคุณเอง

 

เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้ตู้แช่เย็นของบ้านคุณสะอาดขึ้น กำจัดเชื้อโรคที่สะสมมาอย่างยาวนาน และการทำความสะอาดนี้จะช่วยทำให้ตู้เย็นของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาความสดใหม่ของอาหาร ลดการใช้พลังงานได้ ทำให้เกิดการประหยัดค่าไฟ

 

สนับสนุนโดย    Inspire Entertainment Resort

น้ำยาถูพื้นที่ปกป้องน้องหมาและน้องแมว สัตว์เลี้ยงที่น่ารักของคุณ

 

น้ำยาถูพื้นบางชนิดก็ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของคุณ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ระคายเคืองต่อผิวหนัง เกิดอาการคัน โดยส่งผลเสียแบบทางอ้อมและทางตรง หากคุณสังเกตดีๆจะเห็นได้ว่า สุนัขของคุณนั้นมีอาการคันและเก่าอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์จึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นวันนี้เรามาเลือกน้ำยาถูพื้นที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงของคุณกันดีกว่า

 

น้ำยาถูพื้นบางชนิดมีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของคุณ

สำหรับน้ำยาถูกพื้นแล้วเราว่ามีความสำคัญเพราะว่ามันมีสารผสมอยู่ในน้ำยาถูพื้นไม่เหมือนกันบางยี่ห้อก็ทำร้ายสัตว์เลี้ยงตัวน้อยน้อยของคุณได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณนั้นมีการนอนเสือกกลิ้งกับพื้นอยู่เป็นประจำ หรือสัตว์บางชนิดก็มีการเรียพื้น ทำให้เป็นอันตรายต่อสัตว์โดยตรง เพราะพื้นของคุณอาจมีสารบางชนิดที่เจือปนมาจากน้ำยาถูพื้นได้ ดังนั้นวิธีการเลือกซื้อน้ำยาถูพื้นเพื่อให้ปลอดภัยกับเด็กหรือสัตว์เลี้ยงของคุณถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ

 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากคุณเลือกน้ำยาถูกพื้นแบบผิดๆ

1.หากคุณพี่โดนสารเคมีที่เจือปนกับน้ำยาถูพื้นแล้วอาจก่อให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังหรือทำให้คุณให้ผิวหนังแห้งผิดปกติโดยเกิดการระคายเคืองได้

2.ถ้าหากสัตว์เลี้ยงของคุณได้สูดดมสารเคมีบางชนิดที่ก่อให้เกิดอันตรายอาจทำให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยของคุณป่วยหรือเป็นโรคอื่นๆได้

 

อาการที่พบเมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณแพ้น้ำยาถูกพื้น

แน่นอนว่าน้ำยาถูพื้นบางชนิดก็มีส่วนผสมของสารบางตัวที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างที่เราได้บอกข้างต้นไว้เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณนั้นแพ้น้ำยาบางชนิดหรือสารที่มีส่วนผสมที่อันตรายคุณสามารถสังเกตอาการต่างๆเรานั้นได้ดังนี้

1.จะมีอาการคันบริเวณผิวหนังและน้องหมาน้องแมวจะเกา บ่อยครั้งจนผิดสังเกต

2.พบอาการผื่นแดงบริเวณท้องของสัตว์เลี้ยงของคุณได้

3.ถ้าหากสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการท้องเสียอาจเป็นการผิดปกติจากน้ำยาถูพื้นของคุณได้เช่นกัน

4.สัตว์เลี้ยงของคุณอาเจียนแน่นอนว่าการอาเจียนนั้นอาจเกิดขึ้นจากการป่วยได้แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าน้องหมาหรือน้องแมวที่มีการอาเจียนเกิดจากการแพ้สารบางตัวที่อยู่ในน้ำยาถูพื้นของคุณไม่ได้นะ

 

ถ้าหากคุณเลือกน้ำยาถูพื้นให้ถูกประเภทและให้ถูกลักษณะจะทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณนั้นไม่ก่อให้เกิดอันตรายดังข้อเสียที่กล่าวมานั้นซึ่งแน่นอนว่ามันมีผลเสียอาจถึงแก่ชีวิตของสัตว์เลี้ยงของคุณได้โดยที่คุณไม่รู้ตัวดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงของคุณก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

 

สนับสนุนโดย    โรงแรม Hoiana Casino

แนะนำอาหารว่างเพื่อสุขภาพกินอร่อยดีต่อสุขภาพ

การสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี ในสมัยปัจจุบันนี้ สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ รวมไปถึงการเลือกทานอาหารว่างให้เป็น ก็สามารถส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้

ซึ่งต้องบอกก่อนว่า คนส่วนใหญ่ในสมัยนี้มักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกทานอาหารว่างไม่เหมาะสม

เพราะบางคนอาจจะมองแค่ว่า เพียงแค่เราไม่รู้สึกง่วงในระหว่างวันก็เพียงพอแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารว่างก็เป็นหนึ่งในมื้ออาหารที่เราควรให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าหากเราเลือกทานไม่เหมาะสม นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แก่ร่างกายของเราแล้ว ยังอาจทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้อีกด้วย

ฉะนั้น สำหรับใครที่เป็นวัยทำงาน และอยากที่จะกระตุ้นร่างกายให้สดชื่น มีพลังอยู่เสมอ ด้วยการเลือกทานอาหารว่าง วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารว่างเพื่อสุขภาพ ยิ่งทานยิ่งดีต่อร่างกาย จะมีอาหารประเภทไหนบ้างที่เราควรทาน ไปดูกันเลย 

อาหารประเภทธัญพืช แน่นอนว่า ธัญพืชเป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมาก ๆ แถมยังเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพที่เราควรจะทานอีกด้วย เพราะธัญพืชส่วนใหญ่นั้นเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมของใยอาหาร ที่มีส่วนช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้นาน ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดี จึงเหมาะสมสำหรับสายสุขภาพที่ต้องกรดูแลสุขภาพร่างกายในระว่างทำงานอีกด้วย 

ผลไม้หวานหน้อย เป็นหนึ่งในอาหารว่างที่คนส่วนใหญ่ชอบทานกันมาก ๆ เพราะสามารถหาทานได้ง่าย เหมาะสำหรับหรับเป็นมื้อว่าง ๆ ที่ทานในระหว่างวัน เพราะผลไม่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมาก ๆแถมยังดีต่อระบบขับถ่าย มีสารต้านอนุมูลอิสระท่ามารถช่วยต้านความแก่ได้อีกด้วย รับรองได้เลยว่า หากใครที่กำลังมองหาอาหารว่างทานในระหง่างวัน ผลไม้ที่มีรสชาติหวานน้อย เป็นหนึ่งในอาหารที่เหมาะมาก ๆ 

ช็อคโกแลต ถึงแม้ว่าช็อคโกแลคจะมีรสชาติที่ค่อนข้างหวาน แต่รู้หรือไม่ว่า เป็นอาหารที่ดี และมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยทำให้สมองของเรารู้สึกปลอดโปร่ง ไม่รู้สึกเครียด ซึ่งหากใครที่ต้องการพักเบรกในระหว่างการทำงาน

การทานช็อคโกแลตเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก ไ อีกด้วย รับรองได้เลยว่า หากเราทานช็อคโกแลตในระหว่างวันนั้น จะยิ่งทำให้เรารู้สึกดี และมีความสุขกับการทำงานได้มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

เปิดประโยชน์ของการใส่ถุงเท้านอน

เปิดประโยชน์ของการใส่ถุงเท้านอน การให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกาย เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะปัญหาสุขภาพร่างกาย เป็นหนึ่งสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา แม้กระทั่งในระหว่างที่เรานอนเองก็ตาม เราจึงจำเป็นที่จะต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า สิ่งสำคัญสำหรับการนอนหลับที่สามารถช่วยทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีได้นั้นคือ การใส่ถุงเท้านอน ถึงแม้หลายคนอาจจะมองว่าไม่เหมาะสม

เพราะเป็นการกักขังความร้อนไว้ภายในร่างกาย จนอาจก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมาได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใส่ถุงเท้านอนเรียกได้ว่าเป็นการช่วยให้เรานั้นมีระบบการไหงเวียนเลือดที่ดีมากยิ่งขึ้น และอ่าวยให้การนอนหลับของเรานั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้

นอกจากนี้การสวมใส่ถุงเท้าเข้านอนยังสามารถทำใด้เรารู้สึกอุ่น ปลอดภัย และนอนหลับได้ง่ามากขึ้นอีกด้วย ฉะนั้น เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะมีข้อขัดแย้งต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับการใส่ถุงเท้านอนว่าจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ ซึ่งวันนี้เรา  เครื่องช่วยฟังราคาถูก    ก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า ประโยชน์ของการใส่ถุงเท้านอนนั้นจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

1.ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค

แน่นอนว่าโรคภัยไข้เจ็บในสมัยนี้ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ฉะนั้น การใส่ถุงเท้านอน ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถช่วยป้องกันร่างกายของเราจะการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเรเนาต์ ซึ่งถือเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของหลอดเลือด จนก่อนให้เกิดความเครียดตามมา ฉะนั้น การที่เราสวมใส่ถุงเท้าก่อนนอน ก็จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

2.ช่วยป้องกันอาการหวัด

เมื่อไหร่ก็ตามที่เท้าของเราเย็นเกินไป จนส่งผให้อุณภูมิภายในร่างกายนั้นเปลี่ยนไป อาจจะทำให้เราเกิดอาการป่วยต่าง ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะอาการหวัด เพราะการที่เท้าของเราเย็น จะทำให้การไหลเวียนเลือดนั้นลดลง จนทำให้เราเป็นหวัดได้ ดังนั้น การที่เราสวมใส่ถุงเท้าก่อนนอน ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถป้องกันอาการหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 

3.ป้องกันอาการร้อนวูบ

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราจะต้องเข้านอน คนส่วนใหญ่ก็คงอยากที่จะหลับสบาย เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งแน่นอนว่า การที่เราสวมใส่ถุงเท้าก่อนเข้านอน จะสามารถรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายของเราได้ ทำให้เรารู้สึกสบายขึ้น อุ่น และไม่ทำให้ร่างกายของเราเย็นจนเกินไปนั่นเอง รับรองได้เลยว่า หากเราลองสวมใส่ถุงเท้าก่อนเข้านอนเป็นประจำ จะยิ่งทำให้เรารักษาสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

วิธีการดูแลผิว ให้สวย ขาว พร้อมใส

โดยวิธีที่จะทำให้คุณสวยได้นั้น จะบอกว่ามันมีด้วยกัน 9 เคล็ดลับ หรือว่าจะเรียกว่า 9 เทคนิคในการ ทาวิตามินซี หรือวิคซี นั่นเอง เดี๋ยวจากนี้ไปเราจะพูด ถึงวิตามินซีแบบสั้นๆ โดยเราจะอธิบายดังนี้

 

1.วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ

วิตามินซีเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ หรืออาจจะบอกได้ว่าวิตามินซีนั้นเค้าเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ ซึ่งจะทำให้เวลาที่คุณทำการกิน ต่อกันหรือต่อเนื่อง มันจะช่วยให้ขับสารอนุมูลอิสระต่างๆ หรือสิ่งที่เป็นสารพิษต่างๆ สามารถที่จะขับมันอกไปจากร่างกายของพวกเราได้

 

2.วิตามินซีละลายในน้ำ (ไม่ใช่ละลายในไขมัน)

โดยวิตามินซีที่ละลายในน้ำนี้ ต้องบอกว่ามันละลายในน้ำนะไม่ใช่ ละลายในไขมัน ดังนั้น คุณควรดื่มน้ำอย่างน้อยๆ ควรให้ถึงวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย เพื่อเป็นการขับวิตามินซี ออกจากร่างกาย แต่ถ้าหากว่าวันนั้นๆ ที่คุณไม่สามารถที่จะเข้าห้องน้ำได้ ก็ไม่ควรที่จะทานเยอะนะคะ เนื่องจากว่าถ้าหากว่าทานเยอะ คุณก็จำเป็นที่จะต้องอั้น มันจะทำให้คุณเป็นทางเดินปัสสาวะอักเสบ ได้นั่นเอง

 

3.วิตามินซี กินนานๆ หลายปี (ไม่ใช่หลายวัน)

สำหรับวิตามินซีนี้เราจะต้องกินนานหลายปี ไม่ใช่กินแค่หลายวันนะ ดังนั้นการทานวิตามินซี ต่อเนื่องกันหลายๆปี อาจจะกระตุ้นให้เกิดนิ่ว ในกรวยไต หรือในทางเดินปัสสาวะได้ ดังนั้นคนที่อยากที่จะทานวิตามินซี อย่างต่อเนื่องหลายๆปีควร ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เป็นประจำ

 

4.วิตามินซีดูดซึมได้มื้อละ 250 มิลลิกรัม

วิตามินซีดูดซึมได้มื้อละ 250 มิลลิกรัมต่อมื้อ ดังนั้นถ้าหากว่าคุณรับประทานต่อวัน หนึ่งพันมิลลิกรัม ก็คือมันจะอยู่ได้แค่ 250มิลลิกรัมเท่านั้นนะ ดังนั้นถ้าจะให้ดีเราขอแนะนำ คนที่จะทานเป็น. Buffer C หรือว่าวิตามินซีที่มีขนาดเม็ดเล็กๆ โดยจะอยู่ที่ขนาด 250-500 มิลลิกรัมต่อมื้อ และก็รับประทานเช้าเย็น เพียงเท่านี้เราก็จะดูดซึมได้ถึง 500 มิลลิกรัม ซึ่งมันจะพอต่อการต่อต้านอนุมูลอิสระ และก็เป็นการป้องกันไข้หวัดได้นั่นเอง

 

5.วิตามินซี ช่วยลดหน้ามันได้

วิตามินซีช่วยให้หน้ามันของเราลดลงได้ ถ้าหากว่าคุณได้รับประทานวิตามินซีวันละ  750 -1000 มิลลิกรัมก็ได้ โดยการรับประทานวิตามิน 500 มิลลิกรัมแล้วมันดูดซึมได้ตั้ง 250 ใช่ม่ะ เท่ากับว่าถ้าอยากได้ 750-1000 ก็ต้องทานวันละ 3-4 มื้อ นั่นเท่ากับเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอนเข้าไป เพื่อเป็นการดูดซึมให้เยอะขึ้นนี่เอง

 

6.วิตามินซี ช่วยป้องกันไข้หวัดได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งถ้าหากว่าเราอยากได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คือนอกจากการที่เรารับประทานวิตามินซีแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

 

สนับสนุนโดย   ฮอยอาน่า

ความทรุดโทรมของห้องน้ำ หลังผ่านพ้นอุทกภัย

ความทรุดโทรมของห้องน้ำ เกิดขึ้นได้เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างอุทกภัย ซึ่งหลังผ่านพ้นมาแล้ว ห้องน้ำของเราอาจจะไม่เหมือนเดิมวันนี้เรามาติดตามกันว่าสามารถเปลี่ยนกระเบื้องห้องน้ำได้อย่างไร วิธีการดังต่อไปนี้

  1. สกัดกระเบื้องเก่าออก นำตะปูคอนกรีตกับค้อน เลาะตรงรอยแตกกระเบื้อง จนกระทั่งขอบกระเบื้อง แล้วจึงดึงกระเบื้องแผ่นเก่าออก
  2. สกัดปูน ภายหลังเอากระเบื้องเก่าออกแล้ว ก็ทำให้ปูนที่อยู่ใต้กระเบื้องเป็นรูให้ทั่ว โดยใช้ตะปูกับค้อนตอกลงไป
  3. ลงมาติดตั้งกระเบื้องแผ่นใหม่ นำปูนผสมน้ำ แล้วนำมามาติดกับกระเบื้องให้เป็นก้อน แล้วทาปูนให้ทั่วแผ่นกระเบื้อง เสร็จแล้วจึงประพรมน้ำลงบนปูนที่สกัดเอาไว้ แล้วจึงติดกระเบื้องลงไป เคาะ ๆ ให้ขอบเท่ากันกับแผ่นกระเบื้องเดิม แล้วเฉือนเศษปูนออก
  4. นำปูนยาแนวผสมกับน้ำแล้ว ใส่ไปตรงร่องกระเบื้อง เมื่อปูนเริ่มแห้งก็ใช้ฟองน้ำชุบน้ำชุบเช็ดอีกรอบ

 

ปัญหากระเบื้องแตกแก้ไม่ยาก ถ้าเกิดคุณมีเวลาก็สามารถเปลี่ยนแปลงกระเบื้องเองได้ อีกทั้งกระเบื้องพื้น และก็กระเบื้องฝาผนัง แต่ว่าถ้าเกิดจำต้องแก้ไขกระเบื้องหลายจุดมากมาย พวกเราชี้แนะให้ติดต่อกลุ่มช่างผู้ชำนาญมารื้อกระเบื้องแล้วเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่อีกทั้งผืน เพื่อมีความงดงามและไม่มีปัญหาตามมาตอนหลัง

 

ภายหลังจากการสังเกตกระเบื้องแล้ว สิ่งซึ่งสามารถพิจารณาได้ตามมา ว่าน้ำที่ไหลออกมาจากก๊อกน้ำนั้นมีสีอะไร มีตะกอนไหม เพราะฉะนั้นทางที่ดียังไม่สมควรใช้น้ำจากก๊อกน้ำโดยทันที ควรจะเปิดก๊อกปลดปล่อยให้น้ำไหลทิ้งไปกระทั่งน้ำไม่มีสีหรือมีสิ่งแปลกปลอมก่อน และไม่ควรจะใช้น้ำจากก๊อกน้ำดื่มหรือเตรียมอาหาร กระทั่งจะมั่นใจว่าน้ำที่สะอาดรวมทั้งไม่มีอันตราย

 

อ่างล้างมือ และก็อ่างอาบน้ำ เสนอแนะให้ถอดวัสดุอุปกรณ์ ชำระล้างท่อ แล้วก็องค์ประกอบอื่น ๆ ก่อนใช้งาน ส่วนเครื่องสุขภัณฑ์ ควรจะชำระล้างถังพักน้ำของเครื่องสุขภัณฑ์ให้สะอาดก่อน ทดสอบกดเครื่องสุขภัณฑ์ หากกดไม่ลง ควรที่จะใช้ลูกยางปั๊ม งูเหล็กหรือ CO2 ดันสิ่งตันออก

รวมทั้งถ้าหากภายหลังกดน้ำแล้วมีฟองอากาศแทรกน้ำขึ้นมา คาดการณ์ว่าท่ออากาศตัน ให้ชำระล้างท่ออากาศด้วย แม้กระนั้นหากอ่างรวมทั้งเครื่องสุขภัณฑ์มีการบิ่น หรือมีการแตกหักเล็กน้อยแล้ว ขอเสนอแนะให้ซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อนำมาเปลี่ยนแปลง เพื่อให้มีความปลอดภัย และไม่มีการรั่วซึมในตอนหลัง

 

สำหรับท่อน้ำทิ้งในสุขา ถ้าหากราดน้ำไม่ลง ให้ใช้ลูกยางปั๊ม หรือแก๊ส CO2 ชำระล้าง นอกเหนือจากนั้นยังควรจะตรวจค้นรอยแตกรั่วของท่อน้ำ ว่ามีจุดไหนรั่วตรงส่วนไหน ถ้าเกิดเจอให้ปิดวาล์วตรงมิเตอร์น้ำก่อนแล้วติดต่อช่างให้มาปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซม 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟัง

3 สัญญาณเตือนว่าคุณหักโหมกับการออกกำลังกายมากเกินไป

การออกกำลังกาย เป็นหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การดำเนินชีวิตของเรานั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ถึงแม้การออกกำลังกายจะเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม

หรือมีประโยชน์มากขนาดไหนก็ตาม แต่เราก็ไม้ควรที่จะไปหักโหมกับมันมากจนเกินไป เพราะการที่เราออกกำลังกายมากจนเกินไปโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่เราจะได้รับ

จะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ต่อสุขภาพร่างกายของเรา ฉะนั้น การที่เรารู้จักการออกกำลังกายให้เหมาะสม ย่อมส่งผลดี และเกิดประโยชน์ดี ๆ

ต่อสุขภาพร่างกายของเราได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ เริ่มที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งขอบอกเลยว่า การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และไม่หักโหมจนเกินไป

เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม ดังนั้น สำหรับใครที่อยากรู้ว่าตนเองนั้นออกกำลังเหมาะสมมากแค่ไหน วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า สัญญาณไหนที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณหักโหม และออกกำลังกายหนักจนเกินไป ไปดูกันเลย 

  • การมีร่างกายที่อ่อนเพลีย

แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแรง ไม่พร้อมทำงาน อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนที่สามารถบอกได้ว่าร่างกายของคุณนั้นถูกใช้งานหนักจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการออกกำลังกาย จนส่งผลให้เรานั้นรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลานั่นเอง 

  • การมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหักโหมจากการออกกำลังกายมากจนเกินไป อาจจะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคภายในร่างกายของเรานั้นอ่อนแอลงได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่ร่างกายของเรานั้นเกิดการติดเชื้อ หรือมีเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายมากจนเกินไป จนทำให้ระบบภูมิคุ้มโรคนั้นไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ เพราะถูกใช้งานหนักจนเกินไป และยิ่งเราออกกำลังกายอย่างหนักร่างกายของเราก็จะอ่อนแอได้ง่ายนั่นเอง 

  • เกิดความผิดปกติทางอารมณ์

ถึงแม้ว่าในบางครั้งการออกกำลังกายจะสามารถทำให้เรารู้สึกสบายใจ อารมณ์ดีได้ แต่หากเราหักโหมมากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเราได้เช่นกัน ยิ่งถ้าเราออกกำลังกายมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เรามีอารมณ์ที่หงุดหงิดได้ง่าย รู้สึกอารมณ์เสีย หรืออาจก่อให้เกิดภาวะทางอารมณ์อื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการอารมณ์แปรปรวน ฉะนั้นแล้ว  hoiana casino    ทางที่ดีควรที่จะออกกำลังกายให้เหมาะสม พอดี ไม้ควรหักโหมจนส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา 

SA อยากเป็นนักพนันออนไลน์รอนานเนื่องจากกฎระเบียบลาก

อุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ของ SA รอคอยมาเกือบ 10 ปีเพื่อให้กรมการค้า อุตสาหกรรม และการแข่งขัน (DTIC) พัฒนากรอบการกำกับดูแลสำหรับการพนันทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้เศรษฐกิจสูญเสียรายได้และภาษีจำนวนมาก นี่คือคำพูดจาก Nitesh Matai GM ของ SunBet ซึ่งเป็นหน่วยงานการพนันออนไลน์ของเครือโรงแรมคาสิโนและรีสอร์ท Sun International

เมื่อพูดถึงการสัมมนาผ่านเว็บของสื่อ SunBet เมื่อวานนี้ Matai ได้ให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ R8 พันล้านของ SA (รวมถึง e-sports และ i gaming)

ซึ่งเขากล่าวว่าคาดว่าจะเติบโตที่ 11.5% จากอัตราการเติบโตต่อปีระหว่างปี 2020 ถึง 2027 โดยได้แรงหนุนจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สูงและการใช้โทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่การเดิมพันออนไลน์ รวมถึง e-sports และ I gaming นั้นถูกกฎหมายโดยผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต แต่ชาวแอฟริกาใต้ไม่สามารถเล่นการพนันบนเว็บไซต์ระหว่างประเทศหรือในประเทศจากภายในประเทศได้

Matai มีความเห็นว่าการขาดกรอบการกำกับดูแลที่  hoiana เวียดนาม    ทำหน้าที่ชี้นำอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ของ SA ส่งผลให้พลาดโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ซึ่งอาจมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของเทศมณฑล “มีค่าใช้จ่ายที่ยากในการขาดกฎระเบียบของอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ใน SA” เขาอธิบาย “มีผู้ให้บริการการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายระหว่าง 50 ถึง 100 ราย

ที่เราไม่ได้รับรายได้จากภาษี  เงินนั้นกำลังออกนอกประเทศและนั่นหมายความว่าเงินรางวัลทั้งหมดจะไม่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของเรา มีคาสิโนออนไลน์จำนวนมากพอๆ กับที่มีผู้คนเต็มใจที่จะเล่นในท้องถิ่น และผู้บริโภคมักจะอยู่ในความเมตตาของผู้ให้บริการที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ เพราะมีความเสี่ยงมากมายที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย”

หลายๆ ประเทศจำกัดหรือแบนการพนันออนไลน์ แต่มันถูกกฎหมายในสหราชอาณาจักร บางจังหวัดในแคนาดา ประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรป

และหลายประเทศในแคริบเบียน โดยเน้นถึงผลกระทบของการสร้างสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมสำหรับอุตสาหกรรม Matai ชี้ให้เห็นว่ามันจะไม่เพียงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อกฎหมายสำหรับนักพนันเท่านั้น แต่การปฏิบัติตามกฎระเบียบยังช่วยลดความเสี่ยงมากมายที่นักพนันออนไลน์ต้องเผชิญ

ผ่านการคุ้มครองผู้บริโภคและการออกใบอนุญาต ให้กับผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งในประเทศและต่างประเทศ “อันตรายของเว็บไซต์การพนันที่ผิดกฎหมายใน SA นั้นรวมถึงการไม่มีอายุและการยืนยันตัวตนของผู้เล่นออนไลน์ที่ใช้เว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายหรือไม่ได้ควบคุม การฟอกเงิน ไม่มีมาตรการปกป้องข้อมูล

มีการใช้ซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมาย ไม่มีการกลับมาหากมีสิ่งผิดปกติ และการทำธุรกรรมที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายจากเกตเวย์การชำระเงิน ในบางกรณี ผู้ประกอบการอาจลังเลที่จะจ่ายเงินให้กับผู้ชนะ เพราะบางครั้งพวกเขาไม่ได้รับการตรวจสอบ” เขาอธิบาย

สถานประกอบการพนันที่ผิดกฎหมายยังส่งผลเสียต่อผู้ประกอบการด้านกฎหมายในแง่ของความสามารถในการสร้างรายได้ กินผลกำไรของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต ในปี 2560 กรมการค้าและอุตสาหกรรมยึดเงินรางวัลการพนันออนไลน์มูลค่า 1.25 ล้านรูปี